จากกรณีสื่อออนไลน์นำเสนอข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยม บนเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี และถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้มารดาของผู้ตายโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กไม่เชื่อว่าลูกสาวผูกคอตาย ทางตำรวจจึงได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช และล่าสุด ผลการตรวจจากทางนิติเวชออกมา ซึ่งก็ยืนยันตรงกันว่าเป็นการผูกคอฆ่าตัวตาย ไม่ใช่เป็นการฆาตกรรม
พันตำรวจโท โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรย่อยเกาะเต่า ยืนยันว่า นางสาว เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวหญิงชาวเบลเยียมเสียชีวิตบนเกาะเต่าจริง ซึ่งตำรวจรับแจ้งเหตุพบศพเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา โดยสภาพพบว่าผู้ตายผูกคอตัวเองด้วยเชือกติดกับต้นไม้ ไม่มีร่องรอยถูกสัตว์กัดแทะ หรือถูกห่อด้วยเสื้อเชิ้ต ตามที่ปรากฏออกมาทางสื่อออนไลน์สมุยไทม์ ในวันที่พบศพมีสภาพเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน ต่อมาพนักงานสอบสวนนำศพส่งไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุ ซึ่งยืนยันตรงกันว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ด้วยการผูกคอ ทางตำรวจจึงได้ประสานไปยังสถานทูตเบลเยียม เรื่องการเสียชีวิต ซึ่งได้สอบสวนพยานทั้งหมด 6 คน เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา โดยพยานคนแรกคือ มารดาของผู้ตาย ได้ให้การว่า เชื่อว่าลูกสาวผูกคอเสียชีวิตเอง สาเหตุเนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกสาวมีท่าทีแปลกๆ หลังจากเข้าไปอยู่ในกลุ่มของเจ้าลัทธิที่ประเทศอินเดีย และพยายามจะฆ่าตัวตายวิ่งให้รถไฟชนที่กรุงเทพฯ แต่มีพลเมืองดีช่วยไว้ได้ ก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจศพ โดยอยู่ในการดูแลของสถานทูตเบลเยียม ซึ่งมารดาของผู้ตายเอง ก็เดินทางมารับสัมภาระที่เหลืออยู่ที่เกาะเต่าด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้เชิญพนักงานของบังกะโลดังกล่าว มาให้ปากคำอีกครั้ง เพื่อคลี่คลายประเด็นที่หลายคนยังสงสัย
ทั้งนี้ก่อนวันพบศพ ตำรวจรับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บังกะโลที่ นางสาวเอลิส เช่าพักอาศัยอยู่ที่เกาะเต่า บริเวณอ่าวแม่หาด โดยช่วงเกิดเหตุ มีนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงต่างวิ่งหนีกันออกมา มีผู้พบเห็น นางสาวเอลิส วิ่งหนีออกมาด้วย หลังจากนั้นก็หายตัวไป กระทั่งมาพบเป็นศพบริเวณอ่าวโตนด ซึ่งอยู่อีกฝั่งของเกาะ
ในส่วนของประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ตายเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 24 เมษายน โดยจองตั๋วเรือเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดชุมพร ซึ่งทางเว็บไซต์สมุยไทม์ ระบุว่า กระเป๋าเดินทางของผู้ตาย ไปอยู่ที่จังหวัดชุมพร ชุดสืบสวน สภ.ย่อยเกาะเต่า ตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่ายังไม่มีผู้ยืนยันว่าพบเห็นกระเป๋าเดินทางของผู้ตายจริง ตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ตำรวจเข้าตรวจสอบใบรับฝากของจากบริษัทเรือ ก็ไม่พบหลักฐานการฝากสิ่งของในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่สื่อบางสำนักนำเสนอว่า มารดาของผู้เสียชีวิตโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นลูกสาวตนเอง และไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากนางสาวเอลีส เตรียมที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ พร้อมเรียกร้องให้ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งข้อมูลเรื่องนี้มาให้ทราบ ขณะนี้การสืบสวนของตำรวจยังไม่แล้วเสร็จ และตนเองยังคงรอผลการชันสูตรศพ
ด้าน แอดมินเพจเฟซบุ๊ก CSI LA ได้อ้างข้อมูลจากสื่อออนไลน์ประจำท้องถิ่นของเกาะสมุย โดยระบุว่าเป็นเหตุการณ์การตายของนางสาวเอลิส เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำที่เกาะเต่าในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา แต่ถูกปิดข่าวเงียบจากสื่อไทย โดยพันตำรวจเอก วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเข้าพบ เพื่อให้แนวทางประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว โดยเน้นให้มีการสอบสวนในประเด็นที่เป็นข้อสงสัยตามที่ปรากฏเป็นข่าวของสื่อมวลชน ส่วนจะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานที่จะบ่งชี้ว่าเป็นการกระทำด้วยตัวเอง หรือถูกผู้อื่นกระทำ
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามลงพื้นที่ไปคลี่คลายข้อสงสัยของครอบครัวนางสาว เอลีส ที่ยังติดใจไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย และเพื่อเป็นการคลี่คลายข้อสงสัยของสังคม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของตำรวจกลับคืนมา