กรณีเรือนำเที่ยวขับหลบเรือประมงพุ่งชนหินโสโครกบริเวณเกาะง่าม และเกาะทะลุ จ.ชุมพร ทำให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือรวม 13 ชีวิตต้องกระโดดหนีตาย โชคดีช่วยเหลือทันปลอดภัยทั้งหมด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังต้องรอสถานการณ์คลื่นลมที่กำลังแรง และรออุปกรณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกู้เรือต่อไป
ความคืบหน้ากรณีเรือนำเที่ยวขับหลบเรือประมง พุ่งชนหินโสโครก ทำให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือต้องกระโดดหนีตายกว่า 13 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้ทันเวลาโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ บริเวณเกาะง่าม และเกาะทะลุ อ.เมือง จ.ชุมพร ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังรออุปกรณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมกู้เรือที่ล่มบริเวณดังกล่าว แต่ด้วยขณะนี้มีคลื่นลมค่อนข้างแรงความสูงประมาณ 2 เมตร ทำให้ในช่วงบ่ายวันนี้ (18 มิ.ย.61) เจ้าหน้าที่จะประเมินสถานการณ์ว่าจะเก็บกู้ซากเรือนำเที่ยวขึ้นมาได้หรือไม่ ต่อไป
เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าชุมพร พร้อมด้วยเรือตรวจประมงทะเลของศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลภาคใต้ตอนบน และเรือของ สนง.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรส่งหน่วยเรือช่วยเหลือ กระจายกำลังตามหาเรือนำเที่ยว “พรวารี” ล่มลงในทะเลระหว่างเดินทางกลับเข้าสู่ฝั่งบริเวณเกาะง่าม และเกาะทะลุ อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (17 มิ.ย.61) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เรือลำดังกล่าวจมอยู่บริเวณหัวเกาะทะลุ มีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 13 ราย เป็นนักท่องเที่ยว 11 ราย เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนักท่องเที่ยว 1 ราย กัปตันคนขับเรือ 1 ราย ทั้งหมดปลอดภัยได้รับการช่วยเหลือจากเรือตรวจประมงทะเล 324
สอบถามพนักงานประจำเรือ ให้การว่า ขณะที่ปล่อยนักดำน้ำลงไปดำน้ำลงทะเล ได้มีเรือประมงอวนดำขนาดใหญ่สีขาวแดง คาดว่าเป็นเรือจากมหาชัย จ.สมุทรสาคร พุ่งตรงเข้ามาที่เรือนำเที่ยว กัปตันได้สั่งปลดเชือกและถอยหลบ โดยเรือประมงลำดังกล่าวพุ่งชนเกยกับโขดหินบริเวณด้านหน้าของเกาะง่ามน้อย ส่วนเรือท่องเที่ยวหลังจากที่ถอยหลบจากการชนได้เวียนไปรับกลุ่มนักดำน้ำในอีกจุดหนึ่ง กำลังเดินทางกลับ ขณะที่วันนี้เป็นวันที่มีน้ำลด มากกว่าปกติ ทำให้การเดินทางกลับต้องใช้ดาวเทียมเป็นตัวช่วยนำทางเป็นหลัก แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เรือท่องเที่ยวชนกับหินโสโครกใต้น้ำเนื่องจากกัปตันมองไม่เห็นเพียง 10 นาที น้ำทะเลก็เริ่มที่จะไหลเข้าท่วมห้องเครื่อง ผู้ดูแลนักท่องเที่ยวจึงบอกให้เก็บสิ่งของเตรียมสละเรือพร้อมสวมเสื้อชูชีพไว้ทุกคน ทำให้นักท่องเที่ยวทั้ง 11 รายเก็บสัมภาระเท่าที่จะเก็บได้และสวมเสื้อชูชีพพร้อมทั้งกระโดดลงจากเรือ โชคดีที่นักท่องเที่ยวเป็นนักดำน้ำอยู่แล้ว จึงกระโดดลงจากเรือไปลอยคออยู่ในน้ำจนกระทั่งทีมช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ของราชการเข้าไปช่วยเหลือทั้งนักดำน้ำ กัปตัน และลูกเรือทั้งหมด 13 รายได้อย่างปลอดภัยไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นายปณัย หนูแท้ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรือท่องเที่ยวได้นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำบริเวณเกาะง่าม และไปชนกับโขดหินบริเวณเกาะทำให้เรือรั่ว จึงรีบนำเรือกลับเข้าฝั่งแต่ไม่ทันจมลงในทะเล แต่ทีมช่วยเหลือที่มีการเตรียมการไว้อยู่แล้วสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที ส่วนนักท่องเที่ยวต่างแสดงความรู้สึกพอใจกับการช่วยเหลือจากเจ้าของเรือ ท่องเที่ยวที่ประสานหน่วยงานช่วยเหลือของทางราชการได้อย่างรวดเร็วทำให้รอดตายแบบหวุดหวิด