คนพิการร้องคณะกรรมการสิทธิคนพิการ จี้สอบสมาคม-มูลนิธิฯ หักหัวคิวสวัสดิการคนพิการ จ่ายจริงแค่ 500-3,000 ต่อเดือน หมกเม็ดอมเงินค่าจ้างฝึกอบรม ทำรัฐเสียหาย 1,500 ล้านต่อปี เผยอยากให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบโดยไม่มี “กรมการจัดหางาน-พม.” ร่วม
วันนี้ (17 ก.ย.) นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผ่านนายอัญญะรัฐ เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับคนพิการ โดยนายปรีดา กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2550 โดย มาตรา 33 กำหนดว่าให้สถานประกอบการที่มีการจ้างงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องจ้างคนพิการ 1 คน หากสถานประกอบการใดไม่สะดวกจะจ้างงานคนพิการมาตรา 35 ก็กำหนดให้จ่ายเงินสมทบเพื่อเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแทนในอัตรา 109,500 ต่อคนต่อปีตามสัดส่วนที่ต้องจ้างจริง
จากการตรวจสอบพบว่าคนพิการได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมตามมาตรา 33 ระบุตัวเลขคนพิการถูกจ้างงานจำนวน 25,000 คน แต่มีการทำงานจริงแค่ 20,000 คน ส่วนที่เหลืออีก 5,000 คน นอนอยู่กับบ้านเฉย ๆ โดยไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิได้รับสวัสดิการการจ้างงานเดือนละ 9,500 บาท จึงถูกสมาคมคนพิการและมูลนิธิช่วยเหลือคนพิการต่าง ๆ หักหัวคิวจ่ายให้คนพิการเพียงเดือนละ 500 – 3,000 บาท ทั้งนี้ ประมาณการว่าความเสียหายที่เกิดจากมาตรา 33 ประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี
นายปรีดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในมาตรา 35 ที่กำหนดให้สถานบริการที่ไม่ประสงค์จะจ้างงานคนพิการ ให้จ่ายเงินค่าจ้างสมทบให้กับกองทุนฯ เป็นช่องทางทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยสมาคมและมูลนิธิต่าง ๆ จะเป็นผู้รวบรวมรายชื่อคนพิการจากจังหวัดต่าง ๆ ส่งไปยังกรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เพื่อเสนอโครงการจัดอบรมฝึกอาชีพให้กับคนพิการ ช่องทางดังกล่าวทำให้เกิดนายใหญ่เข้ามาทุจริต ทั้งค่าจ้างวิทยากรและเงินในการจัดฝึกอบรม เช่น ตั้งเบิกค่าวิทยากร 300,000 บาท จ่ายจริง 30,000 บาท หรือโครงการอบรม 6 เดือน ดำเนินการจริงแค่ 3 เดือน บางจังหวัดข้าราชการระดับผู้อำนวยการสำนักงาน ขอหัวคิวคนพิการหัวละ 9,500 ต่อคนต่อปี แลกกับการอนุมัติจัดฝึกอบรมทุกโครงการ โดยทั้งหมดทำกันเป็นขบวนการ
” การทุจริตเงินคนพิการจาก มาตรา 33 และ 35 สร้างความเสียหายถึง 1,500 ล้านบาทต่อปี คนพิการที่ผ่านการฝึกอบรมอาชีพต้องได้รับเงิน 109,500 บาท ต่อคนต่อปี แต่คนพิการไม่รู้สิทธิของตัวเอง เพราะคนพิการที่มีศึกษาระดับ ปวช.-ปริญญาเอกมีไม่ถึง 30,000 คน การทุจริตดังกล่าวจึงมีความเสียหายมากกว่าการโกงเงินคนจน เพราะตัวเลขคนพิการทั่วประเทศมากกว่า 1.9 ล้านคน เงินกองทุนส่งเสริมคนพิการจึงมีมากถึง 6,000 ล้านบาทต่อปี โดยที่ผ่านมาผมพยายามจะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมจนถูกข่มขู่คุกคามหลายรูปแบบ คนพิการที่เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมาก็ถูกอุ้มขึ้นรถตู้ไปเจรจาให้รับเงิน 20,000 แลกกับการเซ็นยินยอมไม่ดำเนินคดี จึงเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปสนับสนุนหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” นายปรีดา กล่าวและว่าก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว และอยากให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ โดยขอให้ไม่มี 2 หน่วยงาน คือ กรมการจัดหางาน กับ พม. มาร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งทางเครือข่ายพร้อมให้ข้อมูลโดยสามารถระบุรายชื่อนายใหญ่ในแต่ละขั้นตอนได้ทั้งหมด