กรมการจัดหางานส่วนกลาง ร่วมกับ จัดหางาจังหวัดระนอง กอรม.จังหวัดระนอง นำกำลังนอกเครื่องแบบ เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ที่ตั้งตัวเป็นเจ้าของร้าน จำหน่ายสินค้าแข่งกับแม่ค้าชาวไทย หลังได้รับร้องเรียนจากแม่ค้าพ่อค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะถูกขายตัดราคาและแรงงานซื้อกันเองไม่ซื้อสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้าชาวไทย
8 ก.พ.60 เวลา 08.30 น. นายชัยทัต ณ นคร นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กรมการจัดหางาน (จัดหางานจากส่วนกลาง) พร้อมกำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดระนอง และกำลังเจ้าหน้าที่จาก กอรม.จังหวัดระนอง รวมจำนวน 20 นาย ในชุดนอกเครื่องแบบลงตรวจสอบที่บริเวณตลาดล่าง เขตเทศบาลเมืองระนอง หลังจากได้รับร้องเรียนจากพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตลาดดังกล่าวเป็นตลาดสดขนาดใหญ่มีสินค้าหลากหลายประเภททั้งอาหารทะเล อาหารแห้ง ผลไม้ ผักเนื้อไก่ หมู เสื้อผ้า กิ๊ปช๊อปและสินค้าหลากหลายประเภท
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงแรงงานต่างด้าวชาวเมียนที่นั่งจำหน่ายสินค้า ต่างวิ่งหนี้กันไปคนละทิศละทาง แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะไปในชุดนอกเครื่องแบบ แต่เมื่อแรงงานชาวเมียนมาเห็นว่ามีบัตรแขวนที่คอคงจะเป็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหนี้กันไปก่อน เบื้องต้นสามารถควบคุมแรงงานที่เปิดร้านจำหน่ายสินค้าได้รวมจำนวน 10 คน เป็นผู้ชายจำนวน 3 คน ผู้หญิงจำนวน 7 คน บางส่วนมีคนไทยนำหนังสือมารับรองว่าไม่ใช่ร้านของชาวเมียน แต่เป็นที่ทราบกันดีของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด รวมไปถึงผู้ที่มาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าเป็นประจำว่า ร้านจำหน่ายสินค้าในตลาดสดหลายแห่ง
โดยเฉพาะตามตลาดนัดใหญ่ ๆ ในตัวเมืองระนอง ซึ่งจะมีตลาดนัดเกือบทุกวัน พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานชาวเมียนที่เป็นเจ้าของ โดยมีการว่าจ้างคนไทยบางกลุ่มมาเป็นนายจ้างในราคาวันละ 300-400 บาท คนไทยที่รับจ้างเป็นนายจ้างจะมาเมื่อมีเจ้าหน้าที่มาจับกุม แสดงตัวเป็นนายจ้าง ซึ่งในเรื่องนี้ทางจัดหางานกำลังร่วมกับอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการแก้ไข เพราะเป็นความเดือดร้อนของพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพราะถูกตัดทั้งราคาและมีปัญหาเรื่องภาษาที่สื่อสารกันไม่ค่อยจะเข้าใจ ทำให้แรงงานหหันไปซื้อสินค้าของชาวแรงงานด้วยกัน
เบื้องต้นได้ส่งตัวชาวเมียนมาทั้ง 10 คน ส่งร้อยเวร สภ.เมืองระนอง เพื่อดำเนินคดีในข้อหาคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับตั้งแต่ 2,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจับทั้งปรับ และจะทำการเชิญผู้ที่ทำบัตรและแสดงตัวเป็นนายจ้างมาทำการสอบสวนอีกด้วย