“ป้าปิ๋ว” ประสบอุบัติเหตุจักรยานล้ม ก้านสมองเสียหาย ยังไม่รู้สึกตัว บุตรชายระบุครอบครัวไม่สิ้นหวัง ขอให้แม่ฟื้นแม้จะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยก็ตาม เชื่อว่าจะช่วยกันฟื้นฟูได้ ชวนนักวิ่งส่งกำลังใจเป็นข้อความเสียงและคลิปวิดิโอผ่านเฟซบุ๊คส่งกำลังใจให้ป้าปิ๋ว
สร้างความตกใจให้กับนักวิ่งและแฟนคลับของ “ป้าปิ๋ว-ปราณี ถีติปริวัตร” นักวิ่งวัย 69 ปีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ นายภูริต นิวาศะบุตร บุตรชายของป้าปิ๋ว ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ข้อความว่า “เนื่องจากตอนนี้อาการของคุณแม่ (ป้าปิ๋ว) ยังไม่รู้สึกตัว แต่มีการตอบสนองของร่างกายบางอย่างซึ่งเป็นสัญญานที่ดี ท่านใดต้องการส่งกำลังใจให้ป้าปิ๋ว สามารถอัดเป็นคลิปเสียงส่งมาทาง Facebook messenger ของป้าปิ๋วได้ Pranee Pariwat ทางเราจะนำคลิปเสียงไปเปิดให้ป้าปิ๋วฟังเพื่อเป็นการกระตุ้นสมองของป้าปิ๋วอีกทางนึง ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงป้าปิ๋วครับ”
นายภูริต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม เวลาประมาณ 14.00 น. คุณแม่ประสบอุบัติเหตุจักรยานล้มระหว่างการปั่นจักรยานเพื่อไปร่วมกิจกรรมหนึ่ง เป็นการไถลลงเนินโดยไม่มีคู่กรณี ซึ่งหลังประสบอุบัติเหตุเพื่อนร่วมทีมที่ปั่นจักรยานไปด้วยกัน ได้ประสานเรียกรถกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ทันที โดยแพทย์ระบุว่าก้านสมองได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก และได้ผ่าตัดเพื่อลดแรงดันไปครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งขณะนี้คุณแม่ยังไม่รู้สึกตัว แต่สัญญานชีพดีกว่าวันแรก
“ทางครอบครัวยังมีความหวังให้คุณแม่ตื่นขึ้นมา แม้คุณหมอจะแจ้งว่า หากฟื้นขึ้นมาอาจช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยก็ตาม แต่หากท่านรู้สึกตัว เราอาจช่วยฟื้นฟูร่างกายท่านได้ เพราะทุกครั้งที่นวดตัว นวดมือ นวดเท้าให้ แม่จะมีการขยับตอบสนองบ้าง เราจึงไม่สิ้นหวัง”
นายภูริต กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ห่วงใยคุณแม่ ขอให้ส่งเป็นข้อความเสียงหรือบันทึกเป็นคลิปวิดิโอส่งมาทาง Facebook messenger ของคุณแม่ Pranee Pariwat หรือโพสต์ในเฟซบุ๊คเลยก็ได้ ทางครอบครัวจะนำไปเปิดให้คุณแม่ฟัง เพื่อส่งกำลังใจและช่วยกระตุ้นการตอบสนอง ซึ่งตนเชื่อว่าคุณแม่รับรู้ได้ อีกทั้งการมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นสถานที่จำกัด อาจไม่สะดวกในการรองรับ ซึ่งทางครอบครัวขอขอบคุณกำลังใจที่ส่งมาให้คุณแม่จากทุกคน ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลนั้น คุณแม่เป็นข้าราชการจึงสามารถเบิกค่ารักษาได้ตามสิทธิ
สำหรับ “ป้าปิ๋ว” ถือเป็นนักไตรกีฬา นักปั่นจักรยาน และนักวิ่งสูงวัยที่สร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย โดยมักแต่งกายด้วยการสวมโจงกระเบนในการเข้าร่วมแข่งขัน ด้วยเหตุผลว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่เหมาะกับสรีระตัวเองมากที่สุด จนเป็นภาพชินตาของนักกีฬาทุกสนาม ป้าปิ๋วเริ่มต้นการออกกำลังกายจากการปั่นจักรยาน เนื่องจากถูกแซวที่ซ้อนท้ายจักรยานลูกชายว่าซ้อนท้ายเป็นเด็ก จึงเริ่มต้นหัดขี่จักรยานเมื่ออายุ 40 ปี ขณะเดียวกันป้าปิ๋วก็ใช้การปั่นจักรยานเป็นกีฬาบำบัดรักษาโรคซึมเศร้าที่ป้าเป็นอยู่ จนไม่ต้องกลับไปรับยาจากคุณหมออีก และในวัย 44 ปี ป้าปิ๋วเริ่มเข้าแข่งขันไตรกีฬา เนื่องจากชื่นชอบกีฬาว่ายน้ำ ก่อนเข้าแข่งขันวิ่งอีกหลายสนามในเวลาต่อมา เอกลักษณ์ของป้าปิ๋วคือ “รอยยิ้ม” ที่มักเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนอื่น ๆ ได้ด้วย ป้าปิ๋วจึงเป็นที่จดจำของนักวิ่งทุกคนที่เคยได้พบเจอ
Cr. : Facebook Pranee Pariwat