ระทึกชาวบ้านและพลเมืองเสี่ยงตายช่วยกันปีนบ้านที่เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง เพื่อเร่งช่วยกันดับไฟแต่ไม่ไหว ไฟลุกไหม้รุนแรงเกินไป ได้เพียงแต่ขนย้ายทรัพย์สินบางส่วนออกมาได้ ที่เหลือไหม้ไปกับกองเพลิง
เกิดเหตุไฟไหม้ บ้านเลขที่ 7 หมู่ 3 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ซึ่ง บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง มี 2 ชั้น ซึ่งไฟได้ลุกไหม้โหมอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็จะเห็นการร่วมแรงร่วมใจของพลเมืองดีและชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ต่างช่วยกันคนละไม้คนมือ ที่มาช่วยในการดับไฟที่ลุกไหม้ ขณะเดียวกันก็พยายามขนย้ายทรัพย์สินภายในบ้านที่พอจะขนออกมาได้ ไปยังในพื้นที่ปลอดภัย โดยชาวบ้านต่างปีนหลังคาและเข้าไปในบ้าน เพื่อที่จะเร่งดับไฟที่ลุกไหม้ด้วยสองมือเปล่า รวมทั้งถังน้ำเพื่อดับไฟแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นไม้สักทั้งหลัก อีกทั้งช่วงเกิดเหตุมีลมพัดแรงจึงมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้พลเมืองทั้งหมดต่างเร่งวิ่งหนีออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว และรอจนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองเขลางค์นครจำนวน 5 คัน รุดเข้ามาดับไฟที่ลุกไหม้โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าบ้านได้เสียหายไปเกือบทั้งหลัง
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า เจ้าของบ้านคือ นาง เน่งน้อย วงศ์หาญ อายุ 50 ปี มีอาชีพแม่บ้าน ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง ขณะเกิดเหตุนางเน่งน้อยออกไปทำงานไม่มีใครอยู่บ้าน ส่วนลูกๆก็แยกย้ายไปทำงานอยู่ที่อื่น โดยทางญาติได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบ นางเน่งน้อยถึงกับเป็นลมล้มพับ เพื่อนร่วมงานจึงต้องคอยช่วยปฐมพยาบาล ก่อนจะพากลับมาที่บ้าน โดยเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ขณะออกมาตากผ้าได้เห็นว่ามีควันไฟลุกออกจากชั้นสองของบ้าน จึงได้ตะโกนบอกญาติที่อยู่บ้านติดกันว่ามีควันไฟ จากนั้นก็ได้เกิดไฟลุกไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะบ้านด้านบนเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี แม้จะพยายามช่วยดับแล้วแต่ก็ไม่ทันการณ์ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประสานดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลือ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง จะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง