หมอธีระ เผยผลวิเคราะห์ สถานการณ์โควิด พร้อมแนวทางการรับมือปัญหาในอนาคต

หมอธีระ เผยผลวิเคราะห์สถานการณ์โควิด ที่อาจต้องเจอในอนาคต พร้อมแนะวิธีเตรียมรับมือและแก้ไขปัญหา ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึง การวิเคราะห์สถานะการณ์ระบาดของโควิด-19 รอบที่สองในประเทศไทย ทั้งในเรื่องของเหตุผลที่เกิด สิ่งที่อาจจะต้องเจอ และแนวทางการแก้ไข โดยระบุข้อความว่า

วิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่เราอาจต้องเผชิญ…
หลักการและเหตุผล:

  1. ปัญหาการระบาดซ้ำระลอกสองของไทยนี้หนักกว่าระลอกแรก ดังจะเห็นได้จากจำนวนการติดเชื้อที่สูงมากกว่าเดิมหลายเท่า ดังจะเห็นได้จาก 15 มีนาคม 2563 ถึง 15 เมษายน 2563 มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,529 คน ในขณะที่ 19 ธันวาคม 2563 ถึง 19 มกราคม 2564 มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 8,594 คน
  2. การระบาดครั้งนี้ กระจายไปทั่วประเทศ และมีทั้งการติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงมากมายหลายกลุ่มในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่คนไทยและแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง ปาร์ตี้บิ๊กไบค์ สถานบันเทิง บ่อนการพนัน โรงงาน และที่น่ากลัวคือการติดเชื้อจากการดำเนินชีวิตประจำวันของคนทั่วไปในสังคม ดังจะเห็นได้จากการติดเชื้อในหมู่สมาชิกในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย ที่ทำงานหรือระหว่างการทำงานที่ไปพบปะลูกค้ามากหน้าหลายตา ตลอดจนการเดินทางของผู้ติดเชื้อที่กระจายตัวไปทุกที่่ ทั้งห้าง ตลาด โรงหนัง วัด งานสังคมหลากหลายชนิด รวมถึงธนาคาร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ
  3. มาตรการที่ดำเนินการไปนั้น ยังไม่อาจหยุดการเคลื่อนที่ของประชากรทั้งกลุ่มเสี่ยงและคนทั่วไปได้ แม้จะมีการรณรงค์ขอความร่วมมือมากมาย ก็ได้เพียงบรรเทา แต่ไม่สามารถหยุดวงจรการแพร่ระบาดได้อย่างแท้จริง
  4. เคสติดเชื้อจำนวนมาก ไม่ได้ถูกตรวจในระบบที่รัฐดำเนินการ สังเกตได้จากประวัติการตรวจพบว่าติดเชื้อ เพราะเดินทางไปขอตรวจเอง เนื่องจากกังวล สงสัย หรือมีอาการมาสักช่วงเวลาหนึ่งแล้วไม่หาย สะท้อนถึงข้อจำกัดของระบบการตรวจคัดกรองเชิงรุกที่ยังไม่สามารถครอบคลุมได้ทุกพื้นที่อย่างเพียงพอ ประกอบกับตัวเลขจำนวนการตรวจโรคต่อประชากร 1,000 คนของไทยนั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก และเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีอัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อจากการส่งตรวจพอๆ กับไทย ก็มีจำนวนการตรวจมากกว่าไทยหลายเท่า เช่น เกาหลีใต้ เป็นต้น
  5. ที่น่าห่วงมากคือ ผู้ติดเชื้อจำนวนไม่น้อย ที่แพร่ไปให้ผู้อื่นในสังคม จากการประพฤติปฏิบัติที่เกิดความเสี่ยง ทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตทำงาน ตะลอนไปหลายต่อหลายที่ สังสรรค์ปาร์ตี้ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ รู้ทั้งรู้ว่าไปพื้นที่เสี่ยงมาแต่ไม่กักตัวอย่างเคร่งครัด หรือบางคนขนาดมีอาการคล้ายไข้หวัด ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์กันมากมายว่าเป็นอาการโควิดได้ ก็ยังดำเนินชีวิตไปแบบปกติ จนเวลาผ่านไปหลายวันจึงค่อยไปตรวจ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่วงกว้าง ยากที่ระบบการติดตามค้นหาผู้สัมผัสความเสี่ยงจะตามได้อย่างครบถ้วน และทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ไปหลายระลอก
  6. การค้นหาเชิงรุกในลักษณะทำการสุ่มตรวจนั้น เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่บ้านเมืองปกติ โรคระบาดควบคุมได้ดีแล้ว เพื่อการเฝ้าระวัง ดูจุดที่อาจมีความเสี่ยง แต่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่มีโรคระบาดกระจายไปทั่ว ดังที่เห็นอยู่ในหลายจังหวัดตอนนี้ และหากทำการสุ่มตรวจ เพื่อจะนำมาใช้กำหนดมาตรการผ่อนคลาย อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแปลผลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง นอกจากนี้หากสื่อสารสาธารณะก็อาจทำให้ risk perception ลดลง และก่อให้เกิดความประมาทในการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยต้องไม่ลืมว่าประชาชนจากต่างพื้นที่ยังสามารถเดินทางไปมาหากันระหว่างจังหวัดได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง ตัดสินใจให้รอบคอบ

ฉากที่เราอาจเผชิญได้ในอนาคตและควรพิจารณาวางแผนจัดการล่วงหน้า:

  1. พลุใหญ่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเมือง และเขตอุตสาหกรรม หากไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้
  2. ภูมิศาสตร์การระบาดของโรค หรือ epidemic geography ของประเทศจะเปลี่ยนไปในระยะยาว เนื่องจากจะมีการติดเชื้อรายวันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ จากการที่ไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ หากพื้นที่ใดติดเชื้อบ่อยหรือมาก อาจได้รับการตีตราเป็นแดนดงโรคหรือพื้นที่เสี่ยง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย และระบบธุรกิจอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในระยะยาวได้
  3. การระบาดซ้ำซากอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในลักษณะที่ระลอกสองถูกกดลงในระดับหลักหน่วยหรือหลักสิบหรือหลักร้อย โดยระยะเวลาและความรุนแรงจะแปรผันตามระดับที่กดได้

แนวทางการเตรียมรับมือ:

  1. ขยายระบบบริการตรวจโควิดให้มีศักยภาพเพียงพอที่จะตรวจประชากรได้อย่างน้อย 2 ครั้งต่อคนต่อปี
  2. ปฏิรูปรูปแบบธุรกิจอุตสาหกรรมบริการ ท่องเที่ยว อาหาร และสถานบันเทิง ให้เน้นความปลอดภัยอย่างถาวร เพราะศึกนี้มีแนวโน้มจะต้องสู้ระยะยาว
  3. รูปแบบการทำงานในสถานที่ทำงานทุกประเภท จำเป็นต้องขันน็อตเรื่องความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง”สถานพยาบาล”ทุกแห่ง การตรวจคัดกรองโรคจำเป็นต้องทำในผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลและก่อนผ่าตัด
  4. ประชาชนควรตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหา และวางแผนการใช้ชีวิต การทำงาน และการจัดการการเงินให้ดี จำเป็นต้องประหยัดเท่าที่สามารถจะทำได้ ที่สำคัญที่สุดคือ ป้องกันตัวอย่างเต็มที่ ใส่หน้ากากเสมอ ไม่ตะลอนโดยไม่จำเป็น อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร ล้างมือทุกครั้งที่จับสิ่งของสาธารณะ ไม่กินดื่มในร้าน ซื้อกลับบ้านดีที่สุด ลดละเลี่ยงงานกิจกรรมสังคมที่มีคนเยอะๆ และคอยสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว หากไม่สบาย ต้องหยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจรักษา

ขอให้พวกเราปลอดภัยไปด้วยกัน

ด้วยรักต่อทุกคน

อ่านข่าวที่น่าสนใจ

หมอธีระ หวั่น! โควิด19 ระบาดซ้ำกระจายทั่วประเทศแนะย้ำป้องกันตนเอง

พอๆยุโรป ! หมอธีระ เผยเปอร์เซนต์ตรวจพบเชื้อ โควิดสมุทรสาคร

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ตะวันฉาย เคลื่อนไหว! หลังขาหักแมทช์ชกเดือด แฟนมวยลั่น! อีก 2 ปีกลับมาชก ยังไม่สาย

“ตะวันฉาย” เคลื่อนไหวแล้ว หลังบาดเจ็บหนัก ลั่นขอพักรักษาตัวก่อน ขอบคุณทุกกำลังใจ หลังสร้างความตกใจให้แฟนมวยทั่วประเทศ จากเหตุการณ์บาดเจ็บระหว่างการแข่ […]

หลิว เมิงหยาง คู่ชก ตะวันฉาย เคลื่อนไหวแล้ว ลั่น! แบกความกดดันไว้เยอะ

“หลิว เมิงหยาง” เคลื่อนไหวแล้ว หลังไฟต์เดือดกับ “ตะวันฉาย” เผยแบกความกดดันหนัก ลั่นเป็นนักสู้ที่น่าเคารพ จากเหตุการณ์ไฟต์ช็อกแฟนมวยในศึก ONE ลุมพินี 1 […]

เปิดมุมมองทางวิทยาศาสตร์ “ตะวันฉาย” ขาหักจุดอันตราย จะฟื้นตัวเต็มร้อย หรือแขวนนวม?

เปิดมุมมองวิทยาศาสตร์การกีฬา วิเคราะห์ชัดทุกจังหวะ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” ขาหักจากเกมคิกบ็อกซิ่ง ไม่ใช่แค่แพ้น็อก แต่คือแรงสะสม–จุดตาย–แท็กติกที่พาไปถ […]

แฟนมวยกังวล! เหตุ “ตะวันฉาย” สภาพจิตใจแย่ หลังขาหัก หวิดแขวนนวม

แฟนมวยเป็นห่วง! “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” สภาพจิตใจย่ำแย่ หลังบาดเจ็บขาหัก เผยเคยคิดหยุดเส้นทางนักสู้ ทำเอาแฟนมวยไทยจำนวนมากอดเป็นห่วงไม่ได้ หลังมีรายงาน […]

“รถถัง” เผยอาการ “ตะวันฉาย” หลังขาหักโดนจุดอันตราย

“รถถัง จิตรเมืองนนท์” วิดีโอคอลส่งกำลังใจถึง “ตะวันฉาย” หลังเจ็บหนักจากไฟต์เดือด มิตรภาพนักสู้ที่ไม่ทิ้งกันในวันที่ล้ม สร้างความตกใจให้แฟนมวยทั่วประเท […]
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า
ปิดโหมดสีเทา