เช็กด่วน! อย่าปล่อยผ่าน อาหารเสริมสมุนไพร ที่ไม่ควรทานควบคู่กับ ยาแผนปัจจุบัน อาจเป็นอันตรายต่อระบบ และการทำงานในร่างกาย
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เชื่อว่าหลายคนคงหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น และแน่นอนว่าวิธีที่ง่ายที่สุดโดยไม่ต้องออกไปเสี่ยงกับการติดเชื้อ คือการทางอาหารเสริม ทั้งวิตามินเสริม หรือ สมุนไพรในรูปแบบอาหารเสริม เพราะจากผลการศึกษาในหลายๆที แสดงในเห็นความถือสรรพคุณที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ
ทั้งนี้บางคนที่ทานยาโรคประจำตัวอยู่แล้ว อาจจะเลือกทานอาหารเสริมบางตัว เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีขึ้น แต่รู้หรือไม่ อาหารเสริมสมุนไพร บางตัวก็ไม่ควรทานควบคู่กับ ยาแผนปัจจุบัน เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อระบบในร่างกาย และมีอาการข้างเคียง หรือทำให้ระดับยาในเลือดลงลด
อาหารเสริมสมุนไพร VS ยาแผนปัจจุบัน
1. แป๊ะก๊วย ถ้าทานร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด อย่างแอสไพริน วาร์ฟาริน อาจทำให้ต้านการแข็งตัวของเลือด เสี่ยงเลือดออกง่าย และเลือดออกในสมอง
2.กระเทียม ถ้าทานร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด อย่างแอสไพริน วาร์ฟาริน อาจทำให้ต้านการแข็งตัวของเลือด เสี่ยงเลือดออกง่าย และเลือดออกในสมอง
-ถ้าทานร่วมกับยาลดความดัน ระวังความดันต่ำไป เวียนศีรษะ หน้ามืด
-ถ้าทานร่วมกับยาลดไขมัน ซิมวาสแตติน หรือยาต้านไวรัส จะทำให้ระดับยาในเลือดลดลง
3.ชะเอมเทศ ถ้าทานร่วมกับสเตียรอยด์ จะมีผลข้างเคียงของยามากขึ้น เช่น กดภูมิ เป็นแผลในกระเพาะอาหาร
-ถ้าทานร่วมกับยาขับปัสสาวะ จะเสียโพแทสเซียมมาก ทำให้่กล้ามเนื้ออ่อนแรง
4.โสม ถ้าทานร่วมกับยาต้านซึมเศร้า ระวังผลข้างเคียงของยามากขึ้น เช่นปวดศีรษะ เพิ่มการกระตุ้นระบบประสาท
-ถ้าทานร่วมกับยาวาร์ฟาริน จะทำให้เลือดแข็งตัวเร็วขึ้น
5.มะขามแขก ถ้าทานร่วมกับยาขับปัสสาวะ จะเสียโพแทสเซียมมาก ทำให้่กล้ามเนื้ออ่อนแรง
6. ฟ้าทะลายโจร เมื่อทานร่วมกับยา ซิมวาสแตติน(ลดไขมัน) จะทำให้ระดับยาในเลือดสูงขึ้น
-ถ้าทานร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด อย่างแอสไพริน วาร์ฟาริน อาจทำให้ต้านการแข็งตัวของเลือด เสี่ยงเลือดออกง่าย และเลือดออกในสมอง
7. เห็ดหลินจือ ถ้าทานร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด อย่างแอสไพริน วาร์ฟาริน อาจทำให้ต้านการแข็งตัวของเลือด เสี่ยงเลือดออกง่าย และเลือดออกในสมอง
8. บัวบก ถ้าทานร่วมกับยาลดความดัน อีนาลาพริล แอมโลดิปีน จะทำให้ระดับยาในเลือดสูงขึ้น
ขอบคุณข้อมูล – https://board.postjung.com/1354643
สามารถติดตามข่าวสาร และ เรื่องดีๆเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
บทความสุขภาพที่น่าสนใจ