จับได้แล้ว! “แก็งคอลเซ็นเตอร์” สุดเกรียน หลอกสาวโอนเงิน ก่อนเย๊าะเย้ยส่งท้าย “ผมเป็นมิจ แต่มิจฉาชีพ”

จับได้แล้ว!ตร.กำแพงเพชร ร่วมกับตร.ไซเบอร์จับกุม 1 ผู้ต้องหา “แก็งคอลเซ็นเตอร์” สุดเกรียน หลอกสาวโอนเงิน ก่อนเย๊าะเย้ยส่งท้าย “ผมเป็นมิจ แต่มิจฉาชีพ”

สืบเนื่องจากกรณีของสาวกำแพงเพชรรายหนึ่ง ที่ตกเป็นเหยื่อของ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” โดยสายจากเบอร์แปลกที่โทรเข้ามานั้น โดยจากคลิปจะเห็นได้ว่าเป็นการคุยสายกับทางสภ.เมืองเชียงใหม่ อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหาว่าเธอนั้นส่งพัสดุต้องสงสัย เป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ก่อนที่เธอนั้นจะถูกหลอกในโอนเงินจำนวน 7000 บาท ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีส่วนกลางเพื่อตรวจสอบการเดินเงิน เลขบัญชี 117-3-640044 ธนาคารกสิกรไทย ชื่อนางสาววาสนา ดำสมุทร ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินผ่านแอปพลิชันไปเป็นจำนวน 7,000 บาท เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2565 เวลา 10.08 น.

ต่อมาชายที่แจ้งว่า เป็นร้อยเวร บอกว่าเงินไม่พอกับการตรวจสอบ ต้องการเงินเพิ่มอีก 50,000 บาท ผู้เสียหายหาเงินไม่ได้ จึงไปสอบถามญาติ และรู้ว่าตัวเองถูกหลอก จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป ต่อมาชายดังกล่าวซึ่งแจ้งว่าเป็นร้อยเวร โทรศัพท์ทางไลน์ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกับได้บอกเตือนภัยว่า ทีหลังอย่ารับเบอร์แปลก ผู้เสียหายไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อนเลย ชายดังกล่าวพูดว่า พี่เป็นมิตรนะ ผู้เสียหาย ถามว่ามิตรอะไร โชายดังกล่าวบอกว่า มิจฉาชีพ แล้วก็ตัดสายไป

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำการสืบสวนสอบสวนที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าตนเอง รับจ้างเปิดบัญชีจากคนรู้จัก โดยได้เงินบัญชีละ 1000 บาท เป็นจำนวน 9 บัญชี โดยคนที่มาจ้างตนเปิดบัญชีแจ้งว่าจะนำไปเล่นเกม ตนเพียงรับจ้างเปิดบัญชีเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการนำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปกระทำความผิดแต่อย่างใด และไม่ได้มีส่วนร่วมในขบวนการคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว

ทางด้าน น.ส.กนกกาญจน์ กิติวงศ์ ผู้เสียหาย วันนี้ได้เดินทางมาเพื่อดูหน้าผู้ต้องหา ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรด้วย โดยผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเองต้องการมาดูหน้าของคนที่ตนได้โอนเงินเข้าบัญชีไป ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็วจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้และจะได้สืบสาวไปถึงกระบวนการนี้ต่อไปพร้อมทั้งฝากถึงประชาชนให้ระมัดระวังหากได้รับโทรศัพท์ให้ตั้งสติก่อนโอนเงิน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ พร้อมกับบอกว่าเป็นงัยล่ะ มิจเหร่อ เจอตำรวจเข้าไปเร็วกว่าโอนไวอีก

ส่วนญาติผู้ต้องหาซึ่งเดินทางมาในวันนี้ด้วยได้ แสดงเจตจำนง ขอคืนเงินจำนวน 7000 บาทให้กับผู้เสียหายโดยได้ส่งมอบกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรด้วย

ข้อมูล – Police TV by UCI Media