เปิดลิสต์ทรัพย์สินแชร์ แม่มณี เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดทรัพย์รวมแล้ว 127 ล้านบาท พร้อมออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ห้องประชุมฉัตรประชุมฉัตรไพฑูรย์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวณิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วมแถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติการ จับกุม ตรวจค้นเครือข่ายแชร์แม่มณี หลังจากจับกุม น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือเดียร์ ท้าวแชร์แม่มณี และนายเมธี ชิณภา แฟนหนุ่ม ได้ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีไปก่อนหน้านี้
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับไปแล้ว 5 ราย คือ นางธวัลรัตน์ ทิพย์ประเวช (แม่ของเดียร์), นายปียะ คีรีสุวรรณกุล ผู้ช่วยที่ดูแลเรื่องเงินให้, น.ส.สุพรรณี นิกรกุล แอดมินฝากยอด ต่ออนาคต, น.ส.พรสวรรค์ ภูอินอ้อย และน.ส.วิไลวรรณ หงส์ประชาทรัพย์ แอดมินเพจฝากยอดต่ออนาคตเช่นกัน
โดยตำรวจสามารถตามจับกุมได้แล้ว 2 ราย คือนายปียะ และ น.ส.พรสวรรค์ พร้อมกับแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดเงินสดและทรัพย์สินอีก จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย เงินสดจำนวน 4,000,000 บาท เงินสดจำนวน 7,065,000 บาท อายัดเงินในบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา 8,500,000 บาท อายัดเงินในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ 60,000 บาท
และยังได้ตรวจยึดรถยนต์โตโยต้ารุ่นยาริส 1 คัน มูลค่าประมาณ 700,000 บาท รถยนต์โตโยต้า 1 คัน มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท รถยนต์ฮอนด้ารุ่นซีวิค 1 คัน มูลค่าประมาณ 1,00,000 บาท รถจักรยานยนต์ PCX 1 คัน มูลค่าประมาณ 100,000 บาท ตรวจยึดบ้านเดี่ยว 1 หลัง หมู่บ้านรชยา บ้านช้าง มูลค่าประมาณ 2,600,000 บาท
ตรวจยึดบ้านเดี่ยว 1 หลัง หมู่บ้านศุภาลัย บ้านจั่น มูลค่าประมาณ 1,700,000 บาท ยึดทองคำจำนวน 68 วง หนัก 40.6 กรัม มูลค่าประมาณ 50,000 บาท รวมตรวจยึดเงินสดและทรัพย์สินท้าวแชร์แม่มณีและเครือข่ายทั้งสิ้นมูลค่า 127,315,000 บาท
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งกำชับมา ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันคดีนี้ให้ดำเนินการติดตามทรัพย์คืนให้หมด ไม่ว่าจะเป็นการรับฝาก ปิดบัง ซ่อนเร้น ขอให้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหากใครมีเบาะแสให้มาแจ้ง
เพื่อเอาทรัพย์กลับไปคืนผู้เสียหาย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนถึง ก็จะต้องดำเนินการกฎหมาย สำหรับผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี ในส่วนของ 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมทั้งสิ้น 290 ราย ความเสียหาย 160 ล้านบาท
มีส่วนของอุดรธานีอยู่ในนั้น 266 ราย ความเสียหาย 135 ล้านบาท ตำรวจยังคงรับแจ้งความ สอบสวนดำเนินคดี ออกายจับ ติดตามจับกุม และติดตามทรัพย์ต่อไปไม่หยุด