หนุ่มขับรถกระบะฝ่าความมืด เสยท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ดับคาที่!
วันนี้ (19 พ.ย. 60) เวลา 04:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 157 ขาล่อง บนทางหลวงหมายเลข 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี หมู่ที่ 2 ต.ชัยนาท อ.เมืองชัยนาท พบรถกระบะอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ที่นั่งของคนขับมีศพของชายอายุประมาณ 30 ปี มีเลือดไหลท่วมร่างกาย และพบว่าถุงลมนิรภัยของรถทำงานแล้ว เบื้องต้นพบสมุดบัญชีธนาคารที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เพื่อประสานหาญาติให้มายืนยันตัวผู้ตายอีกครั้ง
ห่างไปประมาณ 30 เมตร พบรถพ่วง 18 ล้อ คู่กรณีจอดอยู่ในสภาพถูกชน ด้านท้ายมีกันชนของรถกระบะติดอยู่ ล้อคู่หลังยางแตก 2 เส้น สภาพท้ายรถเสียหายจากความรุนแรงของการชน
สอบสวนคนขับรถพ่วงให้การว่า ขณะเกิดเหตุกำลังขับรถมุ่งหน้าไปจังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตร จู่ๆ ก็ได้ยันเสียงดังตุ้ม ซึ่งเป็นเสียงที่ดังมาก ตนจึงจอดรถลงมาดูก็พบว่า ถูกรถกระบะคู่กรณีชน จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ซึ่งตนเองยืนยันว่าขับรถอยู่ในช่องซ้ายสุด และไม่ได้ยินเสียงรถคู่กรณีเบรค จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะหลับใน เพราะจุดเกิดเหตุเป็นทางตรงประกอบกับถนนช่วงดังกล่าวมืดสนิท ไม่มีไฟส่องสว่าง อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
อีกรายดับอนาถหลังถูกรถพ่วง 22 ล้อพุ่งชนจนกลิ้งเข้าไปใต้หัวลาก
เมื่อคืนวันที่ 18 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ถิระวัฒน์ เยี่ยมอ่อน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรีว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อ ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วงคันดังกล่าว บรรทุกของมาเต็มหัวลากจอดอยู่ข้างทาง ด้านหน้ามีรอยชนจนเสียหาย ใต้หัวลากพบรถจักรยานยนต์ สภาพพังยับเยิน ห่างออกไปเล็กน้อยพบศพผู้เสียชีวิตในสภาพ กะโหลกศีรษะ แขน ขาหัก
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านญาติ มุ่งหน้าไป อ.ศรีมหาโพธิ์ ถึงที่เกิดเหตุเป็นจังหวะเดียวกับที่รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ คู่กรณีขับแซงรถคันข้างหน้าออกมาอย่างกระชั้นชิด แล้วพุ่งชนแบบประสานงากับรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจังก่อนที่จะลากรถพร้อมผู้ตายไปกับถนน จนเสียชีวิตในสภาพสยดสยอง
ซึ่งหลังก่อเหตุ คนขับรถ 22 ล้อ ได้อาศัยความมืดหลบหนีไป โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัว เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป