ระทึกกลางชุมชน! คนขับแท็กซี่ วัย 75 ปี ถูกผู้โดยสาร ลวงมาทำร้ายร่างกาย ก่อนจะยึดรถ-เงินสดกว่า 6 พัน-บัตรเอทีเอ็ม ก่อนเชิดหนีไปลอยนวล
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นราว 20.00 น.ของ วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในซอยวัดบางด้วนนอก ตำบลบางด้วน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะที่มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับเข้ามาในซอยเลยบ้านที่ติดกล้องไปไม่ไกล จากนั้นรถคันดังกล่าว จอดนิ่งไม่กี่วินาทีถัดมา เราจะได้ยินเสียงคล้ายกับมีคนทุบอะไรบางอย่างคล้ายกับทุบรถ เสียงตุบ จำนวน 3 ครั้ง
จากนั้นจากได้ยินเสียงร้องโอ้ยของชายคนหนึ่งดังขึ้นผ่านกล้องวงจรปิดมุมเดิม และ จะเห็นรถแท็กซี่เคลื่อนตัวออกทางขวาเล็กน้อย ต่อมาจะเห็นว่ามีชายคนหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นคนร้ายที่นั่งโดยสารมาในรถ พยามเข้าทำร้ายร่างกายคนขับรถแท็กซี่รายนี้ จนร้องโหยหวนร้องขอชีวิต ซึ่งจากเสียงดังกล่าวทำให้สุนัขถึงกับเห่าคนแปลกหน้าตรงจุดที่เกิดเหตุ ไม่นานกล้องมุมเดิมจับภาพรถแท็กซี่คันดังกล่าววนกลับย้อนผ่านหน้าบ้านไป หลังเกิดเหตุทางด้านพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และช่วยชีวิตชายคนขับรถแท็กซี่รายนี้ รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ
ทีมข่าวเราลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ไปคุยกับ คุณลุงท่านหนึ่งที่ช่วยชีวิตชายคนขับรถแท็กซี่ คุณลุงเดี่ยว (นามสมมุติ) ลุงเล่าว่า ตอนนั้นตนเองนั่งอยู่หน้าบ้าน แล้วเห็นว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวขับผ่านหน้าเร็วมาก ไม่นาน ก็พบว่าคุณลุงคนขับรถแท็กซี่เดินเซออกมาจากรถ เพื่อจะมาขอความช่วยเหลือ แต่จังหวะนั้นคุณลุงแกคงห่วงรถ และทรัพย์สินในรถจึงวิ่งย้อนไปที่รถแท็กซี่ของแก ทำให้คนขับเปิดประตูแล้วดึงกระชากแกขึ้นรถอีกครั้ง จากนั้นก็ขับออกมาก่อนจะพ้นปากซอยคนขับได้เปิดประตูถีบคุณลุงคนขับแท็กซี่ตกจากรถ ตนเองเห็นแต่ไกล จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือและพามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
คุณลุงเดี่ยว พลเมืองดี ยังเล่าต่ออีกว่า จากการเห็นสภาพของคุณลุงคนขับ คุณลุงบอกว่าตัวเองอายุ 75 ปี แล้ว ซึ่งอยู่ในอาการตกใจและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตามเนื้อตัวแกใบหน้าปูดบวมทั้งใบหน้าและตามร่างกายหลายแห่งจากการถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งแกบอกว่าถูกคนร้ายจี้ชิงรถไปพร้อมกับเงินสดกว่า 6000 บาท พร้อมบัตรเอทีเอ็ม แกจำได้ว่าคนร้ายเป็นชายสักยันต์ที่แขนเท่านั้น
ขณะที่ พลเมืองดี คนที่ 2 ที่ออกมาเห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตอนนั้นตนเองอยู่ในบ้านและยังไม่ได้ขึ้นนอน ได้ยินเสียงดังตุบตั้บตุบตั้บหลายครั้ง พร้อมเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงออกมาดูเห็นคนขับรถแท็กซี่ตะโกนบอกช่วยด้วยช่วยด้วย ผมถูกชิงทรัพย์ แต่ในจังหวะที่รถกำลังจะเลี้ยวกลับรถแกได้ย้อนมาที่รถอีกครั้งจึงถูกคนขับดึงกระชากแกขึ้นรถไป ก่อนจะขับออกไปแล้วถีบแกลงจากรถ ส่วนคนร้ายได้รถแท็กซี่และเงินของแกไป
ส่วน พลเมืองดี คนที่ 3 เล่าว่า ได้ยินเสียงเหมือนคนร้องขอความช่วยเหลือ เสียงเหมือนคนโดนรัดคอ เลยรีบวิ่งออกมาดู จึงเห็นชายคนขับแท็กซี่ถูกดึงรั้งรัดคอและมีบาดแผลเต็มตัว จึงจะเข้าไปช่วยแต่ไม่ทัน เพราะพอคนร้ายเห็นมีคนมาจึงรีบดึงกระชากลุงขึ้นรถและรีบขับออกไป แล้วไปจอดอีกทีหน้าวัดก่อนจะถีบลุงคนขับแท็กซี่ลงจากรถ
เบื้องต้นตำรวจ สภ.เมือง ได้เข้าสอบปากคำเบื้องต้นกับคนขับรถรายนี้ ซึ่งยังคงให้การวกวนและจำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ คาดมาจากการถูกทำร้าย ซึ่งจะต้องรอให้แกฟื้นจากการบาดเจ็บเสียก่อนจึงจะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนของ สภ.เมือง ได้ลงพื้นที่แกะลอยเส้นทางของคนร้ายรายนี้แล้ว
