มีเรื่องราวน่าสะเทือนใจที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในโลกออนไลน์ในเวลานี้ เมื่อเพจเฟสบุ๊คชื่อดัง โพสความยากลำบากของคนขับแท๊กซี่รายหนึ่งที่ ถูกคู่กรณีนามสกุลดัง เจ้าของห้างหรูปลอดภาษี ขับรถเก๋งสปอตชนท้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและรถแท๊กซี่ก็พังยับเยิน ไม่สามารถทำมาหากินได้ แต่คู่กรณีก็ไม่รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทำให้เวลานี้ ครอบครัวคนขับแท๊กซี่ กำลังลำบากขนาดหนัก เนื่องจากต้องหาเงินมารักษาตัวเอง และมาใช้หนี้ค่าผ่อน รถแท๊กซี่ วอนสื่อฯเป็นตัวกลางให้คู่กรณีนามสกุลดังมาชดใช้ค่าเสียหาย
ทีมข่าวลงพื้นที่ติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อพูดคุยกับผู้เสียหายคือ นายประพันธ์ ทิพย์เวียง ได้พาไปดูสภาพรถแท็กซี่ที่พังยับเยินหลังจากถูกรถหรู ซึ่งเป็นทายาทของไฮโซนามสกุลดัง พุ่งชนทำให้นายประพันธ์และผู้โดยสารที่โดยสารที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัส ซึ่งก่อนหน้านี้คู่กรณีบอกว่าจะช่วยเหลือ แต่จากนั้นก็ไม่มีการเข้ามาดูแลเยียวยาอีกเลย
นายประพันธ์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่20กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนเองขับรถแท๊กซี่ มาตามถนนรัชดาภิเษก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็ถูก นายวรพล รักศรีอักษร ขับรถเบนซ์หรู ชนท้ายรถอย่างแรงได้รับบาดเจ็บพร้อมกับผู้โดยสารหญิง ก่อนถึงอุโมงค์แยกห้วยขวาง หลังเกิดเหตุ ทางคู่กรณีก็ตกปากรับคำว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด แต่จนถึงขณะนี้ ผ่านมากว่า 1 เดือน 15 วัน คู่กรณีที่ขับรถเบนซ์ ยังไม่ได้เยียวยาค่าเสียหายใดๆ มีแต่บริษัทประกันภัยเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ โดยนายประพันธ์บาดเจ็บ คือ หัวแตก คางฉีกทั้งหมด18เข็ม รวมถึงฟันหน้าด้านล่างหักไป 4 ซี่ ส่วนผู้โดยสารแท็กซี่ ที่บาดเจ็บที่แขนและศีรษะแตก
https://youtu.be/xugDjx7TBeA
ด้าน นางสาวทอฝัน ทิพย์เวียง ลูกสาวผู้บาดเจ็บ ตัดพ้อว่า ถึงครอบครัวเธอจะยากจน ก็ยังดีกว่าคนรวยแล้งน้ำใจ ต้องเดินเรื่องให้พ่อทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาพยาบาล ขณะที่รถแท๊กซี่ ตนเองกับพ่อช่วยกันผ่อน มาแล้ว กว่า2ปี อีก8เดือนก็หมด แต่ก็กลับมาเกิดอุบัติเหตุ เสียก่อน ส่วนอาการของพ่อมีอาการเบลอจากแรงกระแทกกับพวงมาลัย จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่หายดี ต้องไปหาแพทย์อยูเป็นประจำ อยากฝากไปยังคู่กรณีให้มาช่วยเยียวยาด้วย ที่ผ่านมา มีแต่บริษัทประกันภัยมาจัดการเคลียค่าเสียหาย ส่วนคู่กรณีไม่เคยเหลียวแล มีแต่กระเช้ามาเยี่ยมตอนนอนโรงพยาบาลอย่างเดียว
หลังเป็นข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ก็รับปากว่า จะติดต่อไปยังคู่กรณีให้มาพูดคุยกับผู้เสียหายเพื่อเจรจาค่าสินไหมทดแทน ขณะที่บริษัทประกันก็ตอบรับที่จะจ่ายเงินค่างวดรถแท็กซี่ให้ทั้งหมด 170,000 บาท ส่วนค่าทำฟันยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะประกันจ่ายเพียงครึ่งหนึ่งจาก 6 หมื่นบาท
