มาถึงนางเอกของเรื่องนั่นก็คือ พระแม่อุมาเทวี ซึ่งหลายคนสงสัยว่าบางฉากก็ชื่อ พระแม่อุมาเทวี บางฉากก็ชื่อนางสตี บางฉากก็บอกว่าชื่อปารวตี คือจริง ๆ แล้วจะต้องบอกก่อนว่าเวลาเราใช้เรียกพระแม่เจ้า ซึ่งเทวดาของฮินดูท่านจะมีฉายาหรือมีคู่ครอง อย่างมหาเทพ 3 องค์ท่านก็มีคู่ครองเช่น พระพรหมก็จะคู๋กับพระสุรัสวดี พระนารายณ์ก็จะคู่กัยพระแม่รัศมี ส่วนพระศิวะก็จะคู่กับพระแม่อุมาเทวี ซึ่งเป็นชื่อกลาง แต่ว่าในตำนานเล่าว่าก่อนที่เราจะเรียกชื่อกลาง ท่านเคยเกิดเป็นพระนางสตีมาก่อนเป็นลูกสาวของพระทักษะประชาบดี เสร็จแล้วก็แต่งงานกับพระศิวะ และพ่อตาก็ไม่ชอบลูกเขยเพราะพระศิวะท่านเป็นโยคี รูปลักษณ์ก็ไม่เหมือนคนทั่วไป และพระทักษะประชาบดีก็นับถือพระนารายณ์ ไม่ได้นับถือพระศิวะ ก็เลยไม่ชอบลูกเขย นางสตีก็เลยน้อยใจ สุดท้ายก็กระโดดเข้ากองไฟเสียชีวิตแล้วก็กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นลูกของท้าวหิมาลัย ชื่อว่านางปารวตีและก็ได้มาแต่งงานกับพระศิวะอีกครั้งนึง ซึ่งจริง ๆ แล้วนางสตีกับนางปารวตีก็คือคน ๆ เดียวกัน เทวดาของฮินดูจะมี 2 โหมดหลัก ๆ คือปางปกติกับปางที่ดุร้าย อย่างตอนปราบอสูรหรือโกรธก็จะเป็นปางดุร้าย และในบทบาทที่เป็นพระแม่อุมาเทวีก็จะมีบทบาทที่ทรงพลังอำนาจ ไปปราบปรามเหล่าร้ายด้วย ซึ่งจะเห็นในฉากด้วย แต่หลัก ๆ ก็จะเห็นในบทบาทของภรรยา และเพื่อให้ซีรี่ส์มีความสมจริง เช่น เป็นคนละชาติกัน ถ้าเกิดดูตอนแรกเป็นนางเอกอีกคน พอดูไปซักพักก็จะเป็นอีกคน ซึ่งจะมีนางเอกทั้งหมด 4 คนดังนั้นต้องติดตามตลอดเพื่อจะได้ไม่งง และด้วยความที่ซีรี่ส์เรื่องนี้มีความยาวมาก นางเอกก็จะมีภารกิจจึงมีการเปลี่ยนนักแสดง ในซีรี่ส์อินเดียในขณะที่สร้างเขาจะถ่ายสัปดาห์ละ 5 วัน นางเอกจึงทำอย่างอื่นไม่ได้เลย และเมื่อนางเอกมีภารกิจอื่นต้องทำจึงมีการเพิ่มนางเอกเข้าไป แต่ก็ไม่ได้เสียอรรถรสในการรับชมแต่อย่างใด เพราะเขาคัดเลือกนักแสดงอย่างดี พระแม่อุมาเทวีในเรื่องนี้ก็จะแต่งกายแบบผู้หญิงอินเดีย ผมยาวสวย ตาโตแบบเป็นความสวยงามตามอุดมคติของอินเดีย และแต่งชุดตามประเพณีของอินเดียเช่น ใส่ส่าหรี มีเครื่องประดับแบบประเพณีอินเดีย อันนี้จะเป็นในปางของภรรยา ส่วนในช่วงที่อารมณ์ดุร้ายก็จะเป็นรูปแบบอื่น ๆ เช่น มีหลายกร ถืออาวุธ อันนั้นก็จะเป็นอีกปางนึง










