ภัยหนาวกระทบหนัก ทั้งสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษ ลมหนาวพัดแรง ทำบ้านเรือนพังเสียหาย
เช้าวันนี้ สภาพอากาศยังคงหนาวต่อเนื่อง จ.นครพนม อุณหภูมิลดลงอีกประมาณ 1 – 2 องศาเซลเซียส พบอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 18 – 20 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องประสบปัญหาภัยหนาว โดยเฉพาะเด็ก คนชรา ผู้มีรายได้น้อย และชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง รวม 4 อำเภอ คือ อ.ธาตุพนม อ.เมือง อ.ท่าอุเทน อ.บ้านแพง จะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากมีลมกระโชกแรงมากกว่าพื้นที่อื่น ทำให้ชาวบ้านต้องหันมาก่อไฟผิงคลายหนาว เนื่องจากทนสภาพความหนาวเย็นไม่ไหว และเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไม่สามารถทนความหนาวเย็นได้
โดยทางจังหวัดนครพนม ได้ประกาศเตือนให้ประชาชน หมั่นดูแลสุขภาพป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงนี้ พร้อมประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ เพื่อระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจปัญหาความเดือดร้อน รวมถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลน เครื่องนุ่งห่มกันหนาว และเตรียมจัดหาเครื่องนุ่มห่มกันหนาว ออกไปแจกจ่ายช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ขณะที่จังหวัดบึงกาฬ มีอากาศหนาวเย็นและมีลมกรรโชกแรง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบุ่งคล้า กระแสลมที่พัดแรงทำให้บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง ได้รับความเสียหาย หลังคาบ้านที่เป็นสังกะสีถูกแรงลมพัดขาดหายไป และหลังคาที่เป็นกระเบื้องแตกเสียหายจำนวนหลายหลังคาเรือน
นายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบุ่งคล้า ได้ร่วมกับหน่วยทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ ,กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย และได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งคล้า จัดซื้อสังกะสี กระเบื้อง และอุปกรณ์ที่จำเป็นมามอบให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
ด้าน พ.อ.โฆสิตพงษ์ นิลเอก ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ ได้สั่งการให้กำลังพลทหารเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ให้กลับคืนดังเดิมพร้อมกำชับให้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้หมั่นตรวจสอบสภาพบ้านเรือนของตัวเอง
หากเห็นว่าไม่ปลอดภัยให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการ เพราะพื้นที่อำเภอบุ่งคล้าเป็นพื้นที่ติดเชิงเขาภูงู ของประเทศลาว ในช่วงฤดูหนาวจะมีกระแสลมที่พัดแรง พัดผ่านช่องว่างของเชิงเขา จึงเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในช่วงนี้ด้วย
ส่วน จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มีหนังสือสั่งการไปยังทุกอำเภอของจังหวัดทั้ง 18 อำเภอ ได้เตรียมพร้อมเพื่อรองรับสภาพความหนาวเย็นโดยเฉพาะ ขณะเดียวกันพบว่า มีภาคเอกชนที่นำเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวไปมอบให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อบริจาคสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ด้าน นายเอกกฤต จิตตางกูร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากตัวเลขความต้องการเครื่องนุ่มห่มกันหนาวจะเฉลี่ยอยู่ที่จำนวนประมาณ 210,000-341,000 ผืน โดยวัดจากสถิติความต้องการในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2559 มีตัวเลขของการให้ความช่วยเหลือจำนวน 341,666 ผืน ทำให้ทางจังหวัดต้องเปิดรับบริจาค และมีการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขในเรื่องดังกล่าวต่อไป