เดือดอีก ไอซ์รักชนก สส.พรรคประชาชน ซัด กันจอมพลัง ควันหลงคุยนอกจอ ลั่น จนมุมตอบคำถามไม่ได้ ก็ยกเอา 112 มาเป็นเกาะกำบังในการตั้งคำถาม
ข่าวประเด็นร้อน กรณี ควันหลงคุยนอกจอ ไอซ์รักชนก ปะทะ กันจอมพลัง สืบเนื่องจาก ในรายการคุยนอกจอ เทปที่ “ไอซ์” ไปออกรายการกล่าวถึง “กัน” ที่กลายเป็นประเด็นเดือด โดยในช่วงตอนหนึ่งของรายการช่วงที่ปะทะคารมณ์กัน คุณกัน ได้หยิบยกคดี ม.112 ที่ไอซ์โดนอยู่มาโต้ตอบ ล่าสุด วันที่ 21 ตุลาคม 2568 คุณไอซ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจ รักชนก ศรีนอก – Rukchanok Srinork ว่า “จนมุมตอบคำถามไม่ได้ ก็ยกเอา 112 ขึ้นมา เอาเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเกาะกำบังในการตรวจสอบและตั้งคำถาม” พร้อมกับแชร์บทความของเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun มาอ้างอิง
ข่าวที่น่าสนใจ
- เพจดังขุดยับ น้องพลอยโหนกระแส โคตรไม่ตรงปก แถมบังคับมีอะไรด้วย
- วาร์ปใหม่ล่าสุด น้องโฟมมี่ โหนกระแส แซ่บของจริงหลังถูกแอบอ้างภาพ
- คนละครึ่งพลัสเฟส 2 เริ่ม 2 ม.ค. 68 โครงการส่งท้ายรัฐบาลก่อนยุบสภา ?
ไอซ์รักชนก ซัด “กัน” จนมุมจนต้องยก 112 มาโต้
โดยในบทความของ ศาสตราจารย์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ระบุว่า “เมื่อวานที่รายการคุยนอกจอ กันจอมพลังเลือกใช้ประเด็นการถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 หรือข้อกล่าวหาเรื่อง “ล้มเจ้า” เพื่อตอบโต้ สส ไอซ์ รักชนก ในระหว่างการโต้เถียงกันนั้น ถือเป็นวิธีที่อันตรายมากและใช้ในการเบี่ยงเบนความสนใจจากข้อสงสัยหลักว่าด้วยความโปร่งใสทางการเงินและผลประโยชน์ทับซ้อนกับฝ่ายการเมืองอย่างธรรมนัส ซึ่งไอ้วิธีแบบนี้มันใช้เพื่อเปลี่ยนการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Facts) ไปสู่การต่อสู้ทางอุดมการณ์/ความเชื่ีอ (Ideological Warfare) ในทันที การหยิบยกประเด็นที่อ่อนไหว เช่นเรื่องสถาบันกษัตริย์ ที่สามารถเอาไปกระตุ้นความรู้สึกร่วมของชาติขึ้นมานี้ ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายความชอบธรรมของคู่สนทนาในฐานะผู้ตรวจสอบอย่างสิ้นเชิง เพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีทัศนคติที่สุ่มเสี่ยงต่อการ “ล้มล้าง” สถาบันหลัก จะถูกจัดให้อยู่ในฐานะ “ศัตรูของชาติ” ซึ่งทำให้มวลชนซอมบี้อนุรักษ์นิยมสามารถระดมความเกลียดชังและปฏิเสธที่จะรับฟังข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ไอซ์นำเสนอ ส่งผลให้การสนทนาเกี่ยวกับสัญญาจ้างงานของรัฐ การใช้ทรัพยากรสาธารณะ หรือยอดเงินบริจาคที่ไม่โปร่งใส ถูกทำให้เป็นเรื่องรองและถูกทำให้เงียบลงโดยอัตโนมัติ”
การใช้ “ไม้ตาย” อ้างเรื่องเจ้าแบบนี้จึงไม่ใช่แค่การเบี่ยงเบนประเด็นธรรมดา แต่เป็นการใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเกราะกำบังทางการเมือง เพื่อปกป้องตนเองและเครือข่ายอำนาจที่อยู่เบื้องหลังจากการถูกตรวจสอบตามหลักธรรมาภิบาล และเป็นการบ่อนทำลายหลักการตรวจสอบถ่วงดุลของระบบประชาธิปไตยอย่างเป็นระบบด้วยการสร้างความกลัวและความคลุมเครือที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ทำให้ผู้ที่ตั้งคำถามกลายเป็นผู้ที่ต้องตกเป็นจำเลยทางสังคมแทนผู้ที่ถูกตรวจสอบ งงไหมละค่ะ
ทุกครั้งที่ดิชั้นพยายามอธิบายด้วยเหตุผล คนจำนวนหนึ่งจะบิดเบือนประเด็นทันทีโดยตราหน้า “อีนี่มันล้มเจ้า” ทำให้เรื่องที่สนทนาอยู่นั้นหายไปในพริบตา วิธีนี้แม่งใช้มานานแล้วค่ะ และยังคงอยู่ต่อไป โชคดีที่คุณสรยุทธ์ดึงหัวใจการสนทนากลับมาได้ทัน