พันธมิตรชานม ร่วมประกาศจุดยืน ไม่สนับสนุนภาพยนตร์ มู่หลาน (Mulan) ฉบับคนแสดง จากค่ายดิสนีย์ ทำเอาแฮชแท็ก #BoycottMulan ครองอยู่บนเทรนด์ทวิตเตอร์โลกหลังภาพยนตร์เรื่องมู่หลานเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
สาเหตุที่พันธมิตรชานม ฮ่องกง ไต้หวัน และไทย ต้องประกาศคว่ำบาตรภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื่องจาก หลิว อี้เฟย นักแสดงชาวสหรัฐเชื้อสายจีน ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์เว่ยป๋อ ซึ่งเธอมีผู้ติดตามอยู่มากถึง 65.6 ล้านคน โดยระบุว่าว่าเธอสนับสนุนตำรวจฮ่องกงในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมข้อความระบุว่า
โจชัว หว่อง เดินหน้าโจมตีนักแสดง และแบนหนัง มู่หลาน ขณะที่หนังทำสถิติเปิดตัวในไทยสวนกระแสบอยคอต
อดีตบิ๊กข่าวกรอง งงตึบ! มู่หลาน คือใคร คนรุ่นใหม่ต่อต้านทำไม
“I support the Hong Kong police. You can all attack me now. What a shame for Hong Kong” นอกจากนี้เธอยังได้โควตข้อความที่โพสต์โดย Fu Guohao ผู้สื่อข่าวจาก People’s Daily สื่อทางการจีนซึ่งถูกกลุ่มผู้ประท้วงพยายามขับไล่เพราะเข้าใจว่าเป็นสายลับของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ โดยในโควตของเธอได้ติดแฮชแท็กว่า #IalsosupportHongKongPolice
มู่หลาน ฉายวันแรกโดนถล่มยับ เจอแฮชแท็กร้อน #BoycottMulan
การที่เธอออกมาแสดงจุดยืนว่าเธอนั้นเข้าข้างการตำรวจที่ใช้ความรุนแรงอันไม่เป็นธรรมกับผู้ชุมนุมเช่นนั้นกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของโลกโซเชียลในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเอง รวมถึงนักเคลื่อนไหวในไต้หวันที่ถูกกดทับจากนโยบายจีนเดียวหรือ One China ของจีนเช่นเดียวกัน
เมื่อเร็วๆ นี้ โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหว ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า มู่หลานเข้าฉายวันนี้ แต่เพราะดิสนีย์ยอมอ่อนข้อให้กับจีน และเพราะหลิว อี้เฟย แสดงการสนับสนุนความโหดร้ายของตำรวจฮ่องกงอย่างเปิดเผย ผมจึงเรียกร้องให้ทุกคนซึ่งเชื่อในสิทธิมนุษยชนทำการคว่ำบาตรภาพยนตร์เรื่องนี้ #BoycottMulan
ด้านเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ของไทยเองก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์สนับสนุน การคว่ำบาตรภาพยนต์เรื่องนี้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุว่า พรุ่งนี้ Mulan เริ่มฉายวันแรก แต่เรายังไม่ลืมที่นักแสดงมู่หลานสนับสนุนการใช้ความรุนแรงของตำรวจต่อผู้ชุมนุมฮ่องกงที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย เชิญชวนทุกคน #BoycottMulan #BanMulan เพื่อให้ทางดีสนีย์และรัฐบาลจีนรู้ว่าความรุนแรงของรัฐต่อประชาชนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากนโยบาย One China แต่ขณะนี้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศแถบเอเชียที่มีขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยเข้มข้นและจุดยืนแจ่มชัดในการต่อต้านอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ผู้ใช้ทวิตเตอร์ในไทยเคยแสดงจุดยืนต่อต้าน One China เคียงข้างไต้หวันและฮ่องกง จนกลายเป็นพัธมิตรชานม หรือ Milk Tea Alliance
นอกจากนี้การเรียกร้องประชาธิปไตยในไทยยังมียุทธศาสตร์การต่อสู้ที่คล้ายคลึงกันเป็นจุดร่วมกับการชุมนุมในฮ่องกงหลายอย่างอาทิ การชุมนุมโดยปราศจาก “ผู้นำ” ทุกคนคือแกนนำในการเรียกร้องในครั้งนี้ การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านอำนาจเช่น โบว์ขาว การชูสามนิ้ว การสาดสี เป็นต้น
การต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยของพันธมิตรชานม ไม่ได้มีเพียงไทยเท่านั้นที่ประกาศจุดยืนหนุนการต่อสู้ของฮ่องกงและไต้หวัน ขณะเดียวกันนักเคลื่อนไหวจากทั้ง 2 ประเทศก็ได้ประกาสหนุนการเคลื่อนไหวของไทย และรายงานเหตุการณ์ชุมนุมที่สำคัญเช่น การชุมนุมของเยาวชนปลดแอก หรือการชุมนุมของนักเรียนในชื่อ หนูรู้หนูมันเลว เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานี้ด้วยเช่นเดียวกัน