5 ที่สุด อาชญากรรมแห่งปี ตลอดปี 2562 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญ และคดีความที่เป็นอาชญากรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไล่กันมาตั้งแต่ คดีการเสียชีวิตปริศนาของพริตตี้สาวลัลลาเบล ไปจนถึงคดีสะเทือนขวัญ ที่เป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง โดยมี นายสมคิด พุ่มพวง เป็นฆาตกร
ทีมข่าว BrightToday ได้รวบรวม 5 ที่สุด ข่าวอาชญากรรมแห่งปี ที่สร้างปรากฏการณ์บนโลกออนไลน์ และสร้างความสะเทือนใจต่อสังคมไม่น้อย
5 คดีดังแห่งปี จะมีอะไรไปติดตามกัน
อับดับ 1 ฉากสุดท้าย “ลัลลาเบล” ล้างบางวงการเด็กเอนฯ
คดีการเสียชีวิตปริศนาของลัลลาเบล พริตตี้สาววัย 25 ปี ในเวลานั้น สังคมไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์ ในพฤติกรรมของ น้ำอุ่น รวมทั้ง ขยายผลไปสู่พฤติกรรมของ ก๊วนบ้านบางบัวทอง จุดจัดปาร์ตี้มรณะ ซึ่งเป็นต้นทาง ที่นำไปสู่ความตายของ ลัลลาเบล
ด่วน! คลิปใหม่ ลัลลาเบล-น้ำอุ่น งานปาร์ตี้สุดนัว กระดกน้ำปริศนา
จากการขยายผลในคดีความ ทำให้ นายชัยพล หรือ คิว พรรณา อายุ 29 ปี นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 33 ปี น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญตา อายุ 24 ปี นายโกเมศ หรือ ปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ อายุ 35 ปี และ นายกฤษฎา หรือโนบิตะ โลหิตดี อายุ 27 ปี คือ 5 ผู้ต้องหาชุดที่สอง ที่ถูกจับกุมและฟ้องดำเนินคดี ฐานสนับสนุนนายรัชเดช หรือ น้ำอุ่น กระทำความผิดในฐานพาผู้อื่นเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำจิตครองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ , กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย
ศาลให้ประกัน น้ำอุ่น คดีลัลลาเบลตีราคา3.5แสน สั่งห้ามยุ่งคดี
เผยผลชันสูตรศพ ลัลลาเบล รอบสอง ญาติพอใจสอดคล้องนิติเวชจุฬาฯ
โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตายซึ่งถือเป็นการปิดสำนวนคดีการตายปริศนาของ”สาวลัลลาเบล”ส่วนบทพิสูจน์ในชั้นศาล ใคร จะถูกพิพากษาโทษ หรือไม่ ปี 2563 น่าจะมีคำตอบ
อับดับ 2 คดีมาตุมาต เหยื่อ – คนร้าย และสายเลือด
ถือเป็นข่าวช็อกความรู้สึกของสังคม เมื่อเหยื่อถูกฆ่าหั่นศพยัดใส่ตู้เย็นนั้น คือ แม่บังเกิดเกล้า และผู้ก่อเหตุ คือ ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ คดีมาตุฆาตสยองขวัญ ครั้งนี้เกิดขึ้น ในช่วงบ่ายวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เมื่อมีคนพบศพถูกฆ่ายัดตู้เย็น ในพื้นที่บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
คดีนี้ในเบื้องต้นแม้จะมีการสงสัยว่า ลูกผู้ตายเป็นคนฆ่าแม่ตัวเองจริงหรือ? แต่หลังจากสอบพยานจนสิ้นกระแสความ ตำรวจจึงไม่มีหลักฐานที่จะนำไปสู่การคลี่ปมข้อสงสัยนั้นได้ จึงต้องปิดคดีนี้ลงด้วย….ลูกฆ่าหั่นศพแม่ แล้วนำไปยัดตู้เย็น
แฉพิรุธ ฆ่าแม่ยัดตู้เย็น ลูกชายอาจไม่ได้ฆ่า
อันดับ 3 สมคิด เดอะริปเปอร์ รีเทรินก่อเหตุซ้ำ ฆาตกรรมเหยื่อรายที่ 6
หากจะพูดว่า เป็นความผิดพลาด ในกระบวนการปล่อยนักโทษ หรือ ผู้ต้องโทษ ของ กรมราชทัฑณ์ ก็ว่าได้ หลังสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดได้บังเกิดขึ้น เมื่อ “ฆาตกรต่อเนื่องฆ่า 5 ศพ ” นามว่า สมคิด พุ่มพวง ได้ออกจากคุกและมาก่อเหตุฆ่าเหยื่อซ้ำเป็นศพที่ 6
เรื่องนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถือว่า ออกมาตอบสังคมในทันท่วงที พร้อมๆกับยอมรับในความผิดพลาด โดยบอกว่า
“กรมราชทัณฑ์จะเร่งทบทวนและเพิ่มมาตรการป้องกันมิให้ผู้กระทำผิดซ้ำในคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษเร็วกว่าที่ควรจะเป็น”
แฉวีรกรรม สมคิด พุ่มพวง จีบเหยื่อรายที่7-ตระเวนขอเงินพม. 6 จังหวัด
กรมคุก! รับกรณีลดโทษ สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องหลังก่อเหตุซ้ำ มีปัญหา
วันนี้ สมคิด พุ่มพวง ถูกคุมขังระหว่างรอส่งฟ้องศาล ที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น โดยที่ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการสูงสุด อธิบายต่อสังคมว่า อัยการจะต้องบรรยายคำฟ้องให้เห็นพฤติกรรมของจำเลย ว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ที่ถึงแม้ว่าจะรับสารภาพ ก็ไม่ได้เกิดจากความสำนึกผิดในการกระทำ แต่เป็นการรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจไม่นำคำรับสารภาพ มาพิจารณายกประโยชน์ให้จำเลยนำไปสู่การลดโทษ เพราะอัยการก็เล็งเห็นว่าพฤติการณ์ฆาตกรต่อเนื่อง เป็นอันตรายต่อประชาชน
อันดับ 4 มรดกเลือด ยิงกลางศาล จันทบุรี
ถือเป็นปีแห่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในศาลสถิตยุติธรรม เมื่อคู่พิพาท ปมมรดกเลือด ได้สะสางรอยแค้น ด้วยการลั่นไกยิงดับ 3 ศพ ในห้องพิจารณาของศาลจังหวัดจันทบุรี นายธนากร ธีรวโรดม ใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลยิงใส่ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนที่เขาจะถูกดำเนินคดีฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
เผยสาเหตุ ยิงกลางศาล พล.ต.ต. เดือด หลังฟ้องปมมรดก นาน 10 ปี
เหตุการณ์ร้ายในศาลจังหวัดจันทบุรี ที่เริ่มบังเกิดขึ้นในเวลา 9 นาฬิกา 15 นาที วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เมื่อ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ อายุ 67 ปี ใช้อาวุธปืน พกสั้นออโตเมติก กล๊อก 22 ขนาด .40 ยิงคู่กรณีในห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 และบาดเจ็บ 2
และวันนั้น หากนายธนากร ไม่ยิงดับคลั่งของ ผู้ก่อเหตุ ความสูญเสียในชีวิตอาจจะมากกว่า 3 ศพ
จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้น ทำให้ศาลยุติธรรม ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และถือเป็นความรุนแรงที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น กับองค์กรศาลยุติธรรมไทย
ปมความแค้น แม้ว่า”พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์”อดีตรองจเรตำรวจ อายุ 67 ปี ผู้ก่อเหตุจะเสียชีวิตแล้วก็ตาม แต่คดีความ ปมพิพาทมรดกเลือด ที่ต่อสู้กันมายาวนานกว่า 10 ปี ยังไม่จบลง
เมื่อนาง เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นทายาท 1 ใน 6 คน ของนายสมพล โกศลานันท์ เจ้าของที่ดินที่ 3,800 ไร่ ใน จ.จันทบุรี ที่เสียชีวิตไปแล้ว และเป็นอดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ เป็นผู้เดินหน้าสู้เพื่อทวงความยุติธรรม ให้ฝ่ายตนต่อไป หลังจากเขาอ้างว่า เหตุไม่ได้ความความเป็นธรรม จนนำไปสู่การก่อเหตุร้ายในศาล
โดยนางเขจิรา ออกมาเรียกร้อง พร้อมกับ หอบหลักฐานยื่นให้กับ กองปราบปราม เพื่อขอให้รื้อคดีใหม่ทั้งหมด พร้อมอ้างว่า ที่ผ่านมา อดีตสามี พล.ต.ต.ธารินทร์ กดดัน สะสมและเครียดอย่างหนัก ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะเป็นคนรักความยุติธรรม และ ตั้งใจทำคดีจริงจัง ซึ่งหากยอมโจร ที่หายักยอกทรัพย์ที่ดินก็ถือว่าไม่มีศักดิ์ศรีพร้อมกับการตั้งข้อสังเกตว่านายบุญช่วย เป็นกรรมการวัดอยู่ดีดี แต่ปัจจุบันมีที่ดินมากถึง 4000 ไร่
ขณะที่ ทนายความของทางนางเขมจิรา เชื่อว่าหากรื้อคดีนี้เชื่อว่า อดีตรองจเรตำรวจ พล.ต.ต.ธารินทร์ จะไม่ตายฟรี และยังจะได้ทรัพย์ที่ดินของมูลนิธิวัดพระศรีมหาธาตุกลับคืนมา
ซึ่งนั่นคือการต่อสู้ในคดีความ ที่นำมาซึ่งความรุนแรงในศาล แต่หากนับจากนี้ไป มาตรการความปลอดภัยในศาล มีการปฎิบัติที่เข้มข้นขึ้น คงจะช่วยให้เหตุร้ายในศาลไม่เกิดซ้ำ
อันดับ 5 เมื่อคนที่ไว้ใจ กลับร้ายที่สุด ฆ่าโบกปูนเศรษฐนี เชียงใหม่
27 ตุลาคม 2562 น.ส.วรรณี จิระเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐินีนักปฏิบัติธรรม ถูกฆ่าศพยัดตู้เย็นแล้วโบกปูน สภาพถูกมัดมือมัดขาในท่านั่งคุกเข่า ภายในตึกแถวเลขที่ 90/3 หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
โดยมี นายเอ็ม “วิฑูรย์ ศรีตะบุตร์” อายุ 39 ปี คือฆาตกรโหด ที่จับถูกดำเนินดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและรับของโจร ภายหลังก่อเหตุและหลบหนีไปเพียง 3 วัน
ออกหมายจับ หนุ่มขับสองแถว ฆ่ายัดตู้เย็น เศรษฐินีใจบุญ
จากคำสารภาพที่ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด เมื่อ นายเอ็ม บอกว่าเขา ได้ร่วมกับพวกอีก 2 คนก่อเหตุในครั้งนี้ โดยมีสาวทอมที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับผู้ตายเป็นผู้บงการ และเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อ “ต้น” เป็นคนลงมือฆ่า ส่วนตนทำหน้าที่อำพรางศพ จากนั้นได้ไปตระเวนกดเงินและแยกย้ายกันหลบหนี
สำหรับคดีนี้ สิ่งที่น่าจะนำมาเป็นบทเรียนชีวิต สำหรับบรรดาเศรษฐีนีทั้งหลาย คือ การไว้ใจใครสักคน ต้องศึกษาประวัติให้ถ่องแท้
เมื่อพบว่า นายเอ็ม จากอดีตคนขับรถสองแถว ที่เป็นคนพูดจาดี และจะทักทุกคนที่ได้เจอแบบเป็นกันเอง ทำให้คนมาใช้บริการชอบ จากนั้น เขามาเช่าหอพักที่ อ.จอมทอง ใกล้ๆ กับบ้านของผู้ตาย เลยทำให้รู้จักกัน เพราะเมื่อก่อน ก่อนที่ผู้ตายจะมาซื้อตึกดังกล่าวผู้ตายก็มาเช่าหอพักตอนมาปฏิบัติธรรม ทำให้รู้จักกับ นายเอ็ม กระทั่งผู้ตายมาซื้อตึกดังกล่าว และด้วยความที่ผู้ตายขับรถไม่เป็นจึงได้ว่าจ้างให้ นายเอ็ม เป็นคนขับให้และไปรับที่สนามบินมายังบ้านที่ อ.จอมทอง และพาไปหลายๆ ที่ จนมาเกิดเหตุดังกล่าว
