ภาพครูพี่เลี้ยงที่ใช้ความรุนแรงกับเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ในสถานรับเลี้ยงเด็กย่านลาดกระบัง เป็นภาพที่ใครเห็นก็รับไม่ได้ วันนี้ครูคนนี้ถูกสั่งพักงานแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสอบ ล่าสุด เธอออกมาขอโทษสังคม ออกมาขอโอกาสทำหน้าที่ครูต่อไป ไปคำชี้แจงบองเธอแล้วโปรดช่วยกัยพิจารณาว่าสังคมควรจะให้โอกาสเธอหรือไม่ อย่างไร
อธิบายของนางสาวกัญญาภัทร พี่เลี้ยงที่ทำร้ายเด็กจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลว่ามีพฤติกรรมรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กที่จะเป็นอนาคตของชาติ โดยครูพี่เลี้ยงรายนี้ได้กล่าวยอมรับกับสิ่งที่ทำลงไป พร้อมกราบขอโทษและขอโอกาสจากสังคมให้ทำหน้าที่ดูแลเด็กต่อ และไม่อยากจะตกงานเพราะยังต้องดูแลลูกของตัวเองอีกสองคนต่อ โดยยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นไม่ได้ใช้อารมณ์ เพียงแค่อยากให้เด็กประพฤติตัวให้เหมาะสมเท่านั้นและไม่ได้รุนแรงเหมือนภาพที่ออกไป
และขณะที่ครูกัญญาภัทรกำลังพูดคุยกับทีมข่าวนั้น นายสุธน สุวรรณภานนท์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ก็ได้เดินทางมาตรวจสอบโดยได้เข้ามาพูดคุยกับครูกัญญาภัทร ถึงสาเหตุที่ทำลงไป และบอกว่าตนได้เห็นภาพที่แชร์กันในโซเชียลแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เพราะเด็กยังเล็ก และเด็กวัยนี้จะจดจำการกระทำของผู้ใหญ่ที่ทำให้เห็น และจะเป็นภาพจำที่ไม่ดีแก่เด็กในอนาคต
เบื้องต้นจะสั่งพักงานครูกัญญาภัทรไปก่อน โดยจะตั้งคณะกรรมการสอบ หากผลสรุปตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นความผิดในลักษณะรุนแรงเกินทำร้ายร่างกาย อาจจะถึงขั้นให้พักงานและพักอาชีพเป็นครูพี่เลี้ยง ไปแบบถาวร
นอกจากนี้ครูพี่เลี้ยงยังพยายามบอกกับสื่อว่า เรื่องนี้ตัวเองถูกกลั่นแกล้ง เพราะก่อนหน้านี้ได้พูดคุยและเคลียร์กับครอบครัวของเด็กแล้ว แต่จู่ๆกลับมีคนเอาคลิปมาลงในโซเชียล
ไม่รู้ว่าต้องการอะไร และเชื่อว่าคนที่นำคลิปมาปล่อยย่อมรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ หรือหวังผลอะไร เพราะตัวเองกับคนที่ปล่อยคลิปนั้นมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่ค่อยลงรอยกัน
อยากให้สังคมเข้าใจและฟังความรู้สึกของตนบ้าง
ด้านนายอารีย์ พ่อของครูพี่เลี้ยงที่ทำร้ายเด็ก ระบุว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่สำนักงานเขตลาดกระบังจะมาพักงานลูกของตนเอง พร้อมยืนยัน
จะฟ้องร้องบุคคลที่นำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปโพสลงบนโลกออนไลน์ เนื่องจาก ก่อนนำไปโพสไม่ได้มีการบอกกล่าว
และเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล นอกจากนี้ นายอารีย์ ยังบอกด้วยว่า หลังจากนี้ จะสั่งสอนให้ นางสาว กัญญาภัทร เลิกนิสัยใจร้อน และไม่มีพฤติกรรมรุนแรง
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับครอบครัวของเด็กที่ปรากฎในคลิปโดยยอมรับว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะครูที่เลี้ยงกับครอบครัวสนิทกันเหมือนญาติ
ไปมาหาสู่กันตลอดแต่พอหลังจากเห็นคลิปนี้ก็รับไม่ได้และไม่อยากจะคุยด้วยอีก เพราะจะนึกถึงภาพที่ลูกถูกทำร้ายเสมอ และไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่รู้จักสนิทสนมกัน
จะทำกับลูกของตัวเองแบบนี้ และขอฝากไปยังนางสาว กัญญาภัทร ด้วยว่าหากใจร้อนก็ไปหาอาชีพอื่นทำดีเสียดีกว่า ไม่ควรมาทำอาชีพดูแลเด็ก
