แม่ทัพภาคที่ 2 จัดกิจกรรมรวมพลคนรักษาป่าทับลาน ส่งชุดปฏิบัติการพิทักษ์ไม้พะยูงเฝ้าตลอด 24 ชม.
15 สิงหาคม 2562 ที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 (คลองน้ำมัน) ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 พร้อมด้วย พลโทเรืองสิทธิ์ มิตรภานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่วมเปิดกิจกรรม “รวมพลคนรักษาป่าทับลาน” โดยมีผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครราชสีมาเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยานและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รวมถึงประชาชนในพื้นที ร่วมในกิจกรรมครั้งนี้กว่า 500 คน
สำหรับกิจกรรม “รวมพลคนรักษาป่าทับลาน” จัดขึ้นตามที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 ) มอบหมายให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดูแลรักษาป่าไม้ ให้เป็นไปตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ฯ อย่างยั่งยืน โดยในห้วงที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญเร่งด่วนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ยังคงมีสถานการณ์การบุกรุกและลักลอบตัดไม้อยู่ในระดับรุนแรง และมีการจับกุมแรงงานต่างชาติ เข้ามาลักลอบตัดไม้ได้เป็นจำนวนมาก จึงได้จัดตั้ง “หน่วยเฉพาะกิจทับลาน” โดยใช้กำลังทหารบูรณาการสนธิกำลังร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง ดำเนินการลาดตระเวนป้องกัน เพื่อตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย เส้นทางลำเลียง ขนย้ายไม้ จัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ร่วมตรวจจับกุม ตรวจสอบการบุกรุกทำลายป่าไม้ในพื้นที่ ซึ่งมีพื้นที่เฝ้าระวังในเขต อำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา ทำให้สถิติการจับกุมลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว และมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะในพื้นที่ป่าทับลานมีการปฏิบัติการอย่างเข้มงวด
การจัดกิจกรรมในวันนี้มีกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย พิธีปล่อยแถวกำลังพลชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า, การตรวจเยี่ยมจุดตรวจ/จุดสกัด, กิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำ, ปลูกต้นยางนาเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งด้วย
สำหรับสถิติการจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานล่าสุด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมการกระทำความผิดได้จำนวน 113 คดี ควบคุมตัวผู้กระทำความผิดชาวไทยได้จำนวน 119 คน ชาวกัมพูชา จำนวน 477 คน ยึดไม้พะยูงของกลางรวม 897 แผ่น และไม้หวงห้ามอย่างอื่นอีกกว่า 500 แผ่น เลื่อยโซ่ยนต์อีก 39 เครื่อง.