เตือนแล้วนะ สาวๆหนุ่มๆ หยุดทำ 5 วิธี ลดความอ้วน แบบผิดๆ ยิ่งทำ นำ้หนักยิ่งขึ้น และยังเสียสุขภาพอีกด้วย เช็กด่วนใครทำอยู่ ต้องหยุดทำ
ในสถานการณ์ของการระบาดเชื่อโควิด-19 หลายคนต้องทำงานอยู่บ้าน ดังนั้นคงหนี้ไม่พ้น ตื่นเช้า กินข้าวเช้า นั่งทำงาน กินข้าวกลาง นั่งทำงาน กินข้าวเย็น และก็เข้านอน วนไปวนมาแบบนี้ แน่นอนว่าทำแบบนี้นำ้หนักขึ้นแน่ๆ ซึ่งวิธีการลดนำ้หนักในปัจจุบันมีเยอะมาก แต่แน่นอนว่าหลายคนคงต้องการวิธีที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก และ เสียเวลามาก แต่รู้หรือไม่ บางวิธีมันส่งผลเสียต่อร่างกาย นำ้หนักอาจจะไม่ลงแล้ว ยังทำให้เสียสุขภาพอีกด้วย
วันนี้ Bright Today มี 5 วิธีลดความอ้วน มาเตือนหนุ่มๆสาวๆ หากใครทำแบบนี้อยู่ ต้องหยุด และเปลี่ยนวิธี เพราะมันส่งผลเสียต่อร่างกาย และ ไม่ได้ช่วยให้นำ้หนักลดอีกด้วย
1 ไม่ทานอาหารเข้า – อาหารเช้าจำเป็นต่อร่างกายมาก อาจจะส่งผลถึงระบบการคิดในสมอง เพราะไม่มีสารอาหารไปเลี้ยง หรือ ไม่มีพลังงานเพียงต่อในวันนั้น
2 อดอาหาร – การอดอาหารแน่นอนว่าไม่ดีต่อกระเพาะอาหารแน่ๆ เพราะน้ำย่อยอาจจะกัดกระเพาะอาหารทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ หรือหากว่าสุดท้ายทนไม่ไหว เราจะทานในปริมาณที่มากกว่าเดิม ดังนั้นเลือกแบ่งทานเป็นหลายๆมื้อ ในปริมาณไม่มากต่อมื้อ และเลือกอาหารที่ไม่มีไขมัน หลีกเลี่ยงของจำพวกคาร์โบไฮเดรต
3 กินยาลดนำ้หนัก เพราะยาลดนำ้หนักในบางยี่ห้อ อาจจะมีส่วนผสมของยากดประสาท ทำให้เวลาเราทานเข้าไปจะไม่รู้สึกหิวข้าว อีกทั้งหากทานติดๆกันเป็นเวลานานอาจจะทำให้ดื้อยา และไม่เห็นผล อีกทั้งทานยาลดนำ้หนักมากอาจมีสารตกข้างอยู่ในไตได้ ทั้งนี้อาจจะทำให้เกิดโยโย้ได้ หลากเลิกทานยาไป
4 เครื่องดื่มที่มีความหวาน – ถามว่าดื่มได้ไหม?? ดื่มได้ แต่ในปริมาณที่ไม่มากต่อวัน ดื่มแต่ให้หายอยากเท่านั้น หากลดแบบหักดิบเลย ในบางคนปริมาณนำ้ตาลในเลือดจะตก ส่งผลให้เวียนหัว หน้ามืดได้ ดังนั้นทานแต่พอดี เลือกเครื่องดื่มแบบนำ้ตาล 0% ก็ยังดี
5 การลดนำ้หนักแบบทำๆหยุด ไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากทำให้ระบบในร่างกายรวน และอาจทำให้การลดนำ้หนักในแต่ละครั้งยากกว่าเดิม ดังนั้นหากให้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆทำไป และหากจะเลิกก็ต้องค่อยๆเลิก เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว
ทั้งนี้การลดนำ้หนักที่ดีที่สุดคือ การทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอดี และ ออกกำลังกายรวมด้วย ไม่ต้องรีบ อาจจะต้องใช้เวลานาสักหน่อย แต่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวแน่ๆ
สามารถติดตามข่าวสาร และ เรื่องดีๆเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
