“สุรชาติ” ลั่นพร้อมชูมือดัน “หญิงหน่อย” ขึ้นบัญชีนายกฯ เพื่อไทย เชื่อพรรคไม่สะเทือนคลิปฉาว ชี้เป็นเรื่องส่วนตัวคนสองคน จี้ “กกต.” เร่งสอบปมสมัครสมาชิกพรรค-แลกบัตรคนจน ย้ำค้านออกกฎหมายซ้ำรอยนิรโทษกรรม หนุนเวทีเลือกตั้งช่วยผ่าทางตันประเทศ
นายสุรชาติ เทียนทอง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการ “ทุบประเด็น” ทางสถานีโทรทัศน์ไบรท์ทีวีช่อง 20 ว่า ที่ผ่านมาใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองมาตลอดการทำงานการเมือง 14 ปีที่กรุงเทพฯ ถึงแม้การเมืองของครอบครัวเทียนทองจะอยู่ที่ จ.สระแก้ว ยืนยันว่าถึงจะเป็นลูกนักการเมือง แต่ชีวิตการเมืองของตนไม่ได้สวยหรู ยังล้มลุกคลุกคลานเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.สอบตกมาแล้ว ทุกวันที่ทำงานการเมืองถือเป็นชีวิตของตน แต่การมาเป็นนักการเมืองคือความฝันในวัยเด็ก ถึงแม้นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ในฐานะพ่อจะไม่สนับสนุนและกีดกันด้วยซ้ำ แต่ถือว่าเรามีสิทธิเลือกในความเป็นตัวตนของเรา เพราะการเป็นลูกนักการเมืองมันง่าย แต่การเป็นนักการเมืองยาก ขณะที่แนวทางการเมืองกล้าพูดได้ว่าทุกอย่างมาจากตัวตนจนทำให้ชนะเลือกตั้ง ส.ส.เขตหลักสี่ กทม. โดยลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ จากก่อนหน้านี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ให้โอกาสโดยไม่ได้เป็นการฝากเข้าพรรคจากพ่อ
นายสุรชาติ กล่าวต่อว่า ขณะที่เรื่องคลิปที่ออกมานั้น ถ้ามองเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อใช้ทำลายความน่าเชื่อถือในช่วงเวลาใกล้เลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าพอสมควร ทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องธรรมชาติ และไม่ได้ผิดศีลธรรม สถานที่ก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไร ทั้งหมดเป็นเรื่องของคนสองคน แต่จะเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ก็ไม่อยากไปซ้ำเติมสถานการณ์ และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้ ส่วนกระแสว่าเป็นการปล่อยจากคนในกันเองเพื่อทำลายคู่แข่งภายในด้วยกันนั้น หากมองเป็นประเด็นทางการเมืองมองได้ทุกแง่มุม อยู่ที่ความเชื่อทางการเมืองของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จึงขอให้ตัดประเด็นทางการเมืองทิ้ง ไม่ว่าใครทำก็แล้วแต่ อยากให้สังคมมองว่าเป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดศีลธรรม
“ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจะดำเนินคดีหรือดำเนินการอย่างไรก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ถ้ามองเป็นประเด็นการเมืองก็ไม่จบไม่สิ้น มันมองได้หมดว่า ฝ่ายไหนทำ ฝ่ายไหนไม่ทำ คนในทำกันเองหรือว่าคนนอกที่ต้องการดิสเครดิตจากฝั่งไหน”นายสุรชาติ กล่าว
“ความคิดที่แตกต่างในพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นเรื่องปกติของการเมือง คนอยู่พรรคเดียวกันไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน แต่สุดท้ายต้องหาจุดร่วม”
นายสุรชาติ กล่าวว่า ขณะที่คลิปที่มีพรรคบางพรรคจะกวาดต้อนประชาชนให้เป็นสมาชิกพรรค เพื่อแลกกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องไปตรวจสอบว่าเป็นการกระทำของบุคคลหรือว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่นั้นหรือไม่ แต่การกระทำนี้จะส่งผลได้ผลเสียกับการเลือกตั้งแน่นอน ส่วนใครจะทำ จะถูกสั่งโดยใคร หรือทำโดยเป็นนโยบายพรรคหรือไม่อยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะต้องค้นหาต่อไป ทั้งนี้ ในเรื่องความคิดที่แตกต่างในพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นเรื่องปกติของการเมือง คนอยู่พรรคเดียวกันไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน แต่สุดท้ายต้องหาจุดร่วมจากเสียงส่วนใหญ่เพื่อตัดสินเป็นนโยบายแนวทางของพรรค ส่วนทางการเมืองนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ก็มีความเหมาะสมจะเป็นนายกฯ ได้ และหากพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นในบัญชีนายกฯ ก็เห็นด้วยอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองใหญ่ การจัดสรรผู้สมัครในวันนี้ยังต้องมีกระบวนการสรรหาผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด และไม่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมและการออกหมายทุกอย่างมีบทเรียนด้วยตัวเอง ส่วนตัวไม่เห็นด้วย และต้องฟังเสียงประชาชน
นายสุรชาติ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะสมัครพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 9 โดยครั้งนี้ถูกปรับเปลี่ยนเพิ่มในเขตจตุจักรบางส่วน ซึ่งเป็นผลจากการแบ่งเขตของ กกต. โดยใน กทม.เหลือ 30 เขตจาก 33 เขตเลือกตั้ง วันนี้สนามเลือกตั้งจะปรับพื้นที่อย่างไร ถึงจะมองว่าการแบ่งเขตไม่เป็นธรรมแต่ก็ต้องยอมรับ ส่วนตัวมองว่าในหลาย ๆ จังหวัด ตามที่มีการมองว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งมาเป็นเครื่องต่อรองทำให้นักการเมืองย้ายพรรคนั้น แต่วันนี้ต้องเดินสนามแล้ว ถึงกติกาไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเราและไม่มีความเป็นธรรม แต่ก็ต้องเดินหน้าเลือกตั้งต่อไป การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นทางออกให้ประเทศ เพราะหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยถูกขีดเส้นให้ทุกคนต้องเดินเส้นนี้จนมาถึงทางตัน แต่ในระบอบประชาธิปไตยเราต้องหาทางแยกได้ เพื่อเลือกการเดินของตัวเอง ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้จะกำหนดว่าเราจะผ่าทางตันนี้ออกไปได้หรือไม่
“การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มั่นใจ ผมไม่ได้เป็นคนซับซ้อนอะไร เพราะไม่เคยมั่นใจว่าจะชนะ เพื่อให้ตัวเองต้องทำงานตลอด ถ้ามั่นใจเมื่อไรว่าทำดีแล้ว ประชาชนรักแล้ว หรือเลือกตั้งได้แล้วเราก็จะไม่ทำงาน แต่ทุกวันผมเดินออกจากบ้านด้วยความไม่มั่นใจแล้วพกความไม่มั่นใจไปหาประชาชน เพื่อจะออกไปทำงานให้ประชาชนรักเรา”นายสุรชาติ กล่าว