“พลังประชารัฐ” ไม่หวั่นถูกยื่นยุบพรรค ยันไม่ส่ง “บิ๊กตู่” ร่วมดีเบตด้วย ซัดฝ่ายการเมืองต้นต่อรัฐประหาร ชี้ปฏิรูปกองทัพไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
20 ก.พ.62-นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐว่า พรรคไม่ต้องเตรียมอะไร นอกจากความจริง เพราะการเมืองมักจะสร้างประเด็น แต่บางประเด็นก็ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง ดังนั้นพรรคจะเตรียมข้อเท็จจริงไปชี้แจง จึงมั่นใจว่าพรรคไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกรณีหลายพรรคการเมืองเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าร่วมเวทีดีเบตนั้นทต้องไปดูข้อกฎหมาย ถึงแม้พล.อ.ประยุทธ์จะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯในนามของพรรค แต่สถานะยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงไม่เหมาะที่จะลงมาดีเบต ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่จำเป็นต้องดีเบต เพราะที่ผ่านมาก็ได้แสดงวิสัยทัศน์ในนามนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการปฏิรูปกองทัพที่หลายพรรคเสนอนโยบายตัดงบประมาณและยกเลิกเกณฑ์ทหาร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ประเด็นปฏิรูปกองทัพเป็นกรอบความคิดที่กองทัพเองไม่ได้ปฏิเสธการปฏิรูป และนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เน้นการปฏิรูปในทุกด้าน ไม่เฉพาะเจาะจง และในทางปฏิบัติกองทัพก็ได้ปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ที่เป็นประเด็นขณะนี้ หลายพรรคไปเจาะจงที่การลดงบประมาณซึ่งไม่ใช่การปฏิรูปทั้งระบบ สิ่งเหล่านี้ต้องดูความเป็นจริงประกอบกัน พปชร. ก็ได้ศึกษาเรื่องดังกล่าวไว้ แต่ไม่ได้เจาะจงที่กองทัพอย่างเดียว เพราะปฏิรูปต้องปฏิรูปทั้งประเทศ ดังนั้นการพูดถึงกองทัพขณะนี้ไม่ใช่การปฏิรูปที่แท้จริง แต่เป็นประเด็นทางการเมืองให้กองทัพต้องมารับผิดชอบทางการเมืองมากกว่า
นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่เรื่องกองทัพนั้น กองทัพไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะหน้าที่กองทัพต้องดูแลความมั่นคง ส่วนรัฐประหารทุกครั้งเพราะต้นเหตุเกิดมาจากนักการเมือง ไม่ได้เกิดจากกองทัพ ดังนั้นการแก้ที่กองทัพเพื่อป้องกันรัฐประหารจึงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ อีกทั้งถ้าย้อนหลังกลับไปรัฐประหารทุกครั้งเกิดจากความล้มเหลวของฝ่ายการเมือง ที่ไม่สามารถดำเนินการแบบปกติได้ หรือแม้กระทั่งการรัฐประหารเมืองปี 2557 ก็ไม่ได้รัฐประหารรัฐบาลที่มาจากประชาชน แต่เป็นรัฐบาลรักษาการที่เดินหน้าไม่ได้ ประเทศไปต่อไม่ได้ เลือกตั้งก็ไม่ได้ แต่เกิดการบาดเจ็บล้มตายของประชาชน กองทัพจึงเข้ามาแก้ปัญหา ดังนั้นการปฏิรูปกองทัพวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน อยากให้นำเวลาไปแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองที่เร่งด่วน เพราะส่วนตัวเชื่อว่ากองทัพรับฟังในความคิดเห็นต่างๆ แต่สิ่งเหล่านั้นยังมีเวลาในการพูดคุยพิจารณา