หล่อลูกครึ่ง “อัง บูรฮานุดดีน” นักเตะฝีเท้าดี ดีกรีนายแบบ

ไหนใครอยากเป็นแฟนนักเตะบ้าง เพราะวันนี้ UBright เอาใจสายนักกีฬาอีกแล้ว พาหนุ่มน้อยอดีตนักฟุตซอลทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 20 ปี ของสโมสร ม.เกษมบัณฑิตมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันด้วยแหละ เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีฝีเท้าดีเยี่ยม แถมยังหน้าตาดีระดับนายแบบอีกต่างหาก หู๊ยยย ไม่พูดเยอะ เราไปทำความรู้จักกับเขากันดีกว่าค่ะทุกคน…

โปรไฟล์นักเตะ

ชื่อ-นามสกุล : บูรฮานุดดีน ลอแม

ชื่อเล่น : อัง

วันเกิด : 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540

อายุ : 20 ปี

ส่วนสูง : 170 เซนติเมตร

น้ำหนัก : 65 กิโลกรัม

การศึกษา : คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาการจัดการการกีฬาและนันทนาการ ชั้นปีที่4 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

สีที่ชอบ : ขาว

สถานที่สุดโปรด : สนามซ้อม

อาหารที่ชอบ : เบอร์เกอร์

สัตว์เลี้ยงที่ชอบ : แมว

กีฬาที่ชอบ : ฟุตซอล

ไอดอลในดวงใจ : คนไทย อารีฟ อาหะมะ (นักฟุตซอลทีมสโมสรการท่าเรือ)

ต่างชาติ ฟัลเกา (นักฟุตซอลทีมชาติบราซิล)

ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเจ้าอัง คือหนุ่มหล่อนักเตะจากแดนใต้นะคะสาว ๆ เห็นหล่อลูกครึ่งแบบนี้ คนไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์จ้า

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักฟุตซอล

“ส่วนตัวจริง ๆ ผมเริ่มจากการเป็นนักเตะฟุตบอลก่อนนะครับ และก็ก้าวมาอยู่ในวงการฟุตซอลเพราะผมรู้สึกว่าเป็นกีฬาที่เหมาะกับผมมากกว่า โดยเริ่มจากที่ตอนแรกตัวผมเองก็เล่นอยู่กับเพื่อน เตะเล่น ๆ ตามประสาเด็กอยู่บ้านนอกครับ จากนั้นได้มีโอกาสเข้ามาเรียนในเมือง เราได้เจอคนเยอะขึ้น จากที่คิดว่าจะเตะเล่นสนุก ๆ ก็เริ่มคิดที่จะจริงจัง ยิ่งตอนที่ได้ติดเป็นตัวแทนไปแข่งขันในนามของโรงเรียนหลากหลายรายการ ก็รู้สึกอยากเป็นนักเตะอาชีพ จึงพัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ”

กว่าจะมาเป็นนักกีเตะอาชีพ ผ่านอะไรมาบ้าง

“ต้องเล่าก่อนว่า ตอนมัธยมต้นผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จังหวัดยะลา ก็มีรายการมากมายไห้ผมเล่น มีอาจารย์อำนาจ ช่วยฝึกซ้อมพวกผมอย่างหนัก เพื่อไปแข่งขันหลาย ๆรายการ ทั้งในระดับภาคใต้และระดับประเทศ จนทำให้ผมได้มีโอกาสมาคัดฝีเท้าที่โรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย และผมก็ได้รับโอกาส เป็นนักเตะและศึกษาต่อในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนอิสลามวิทยาลัย มีรายการมากมายไห้ผมได้แข่งขัน ได้ลงแข่งขันในแมตช์แข่งต่าง ๆ จากนั้นผมก็ได้เซ็นสัญญา ตอนแรกผมอยู่ที่สโมสรฟุตซอลการท่าเรือครับ พออายุผมถึงระดับมหาวิทยาลัย ผมก็เลยตัดสินใจเข้ามาคัดที่สโมสร ม.เกษมบัณฑิต จนได้เป็นนักเตะอาชีพของที่นี่ครับ”

เห็นข้อดีอะไรของการเป็นนักเตะฟุตซอล

“อันดับแรกผมได้รับทุนการศึกษาเรียนฟรีในระดับปริญญาตรีครับ ผมสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในส่วนของค่าเทอม ถือเป็นการประหยัด ไม่ลำบากครอบครัว เพราะครอบครัวก็ไม่ได้มีฐานะอะไรมาก นอกจากการเรียนฟรี การที่ผมเป็นนักฟุตซอล กีฬาประเภทนี้ทำให้ผมมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ผมได้ฝึกความอดทน ทำให้ผมเป็นคนมีระเบียบวินัย ที่สำคัญผมได้เห็นกำลังใจ ได้รับรอยยิ้มจากแฟน ๆ ที่คอยเชียร์ผมครับ”

หลุดทีมชาติก็ไม่น้อยใจ

พูดคุยกับเจ้าอังเรื่องของการติดทีมชาติ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการเป็นทีมชาติสามารถหลุดได้ด้วยหรอ เจ้าตัวจึงตอบมาว่า “หลุดได้ครับ ข้างในก็เหมือนการแข่งขันในทีม ในทีมจะไม่มีตัวหลัก การจะเป็นทีมชาติได้นานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่ที่ฟอร์มการเล่นของแต่ละคนอีกครับ (หลุดทีมชาติแล้วเกิดอาการน้อยใจไหม) ไม่มีเลยครับ ตอนแรกที่ผมติด ตัวผมเองก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ผมไม่ได้คาดฝันไว้เลยว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้ อีกอย่างผมเป็นคนไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ผมจะมีความสุขตลอด คิดบวกอยู่เสมอ ถ้าหลุดไปก็หมายถึงฟอร์มเราอาจจะยังไม่ดี เราต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เราต้องกระตุ้นตัวเองให้ดีกว่าเดิม อาจจะมีท้อบ้าง แต่ที่เวลาท้อ เวลาที่เหนื่อยผมก็คิดถึงบ้านครับ นึกย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นว่าเรามาจากบ้านนอก คนที่บ้านเราอยากมาเป็นแบบเราแต่เขาไม่มีโอกาส แต่เรามาถึงจุดนี้ได้ ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจมาก ๆ แล้วครับ”

ดูแลสุขภาพร่างกายอย่างไร

“ยิ่งผมเคยบาดเจ็บมา ผมยิ่งต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น มีวินัยในตัวเอง ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ตรงเวลา อาจจะไม่ได้มีตารางอาหารที่จริงจัง แต่เราก็ต้องรู้ตัวเองครับ ว่าถ้าเราอ้วนขึ้น เราก็วิ่งไม่ไหว ก็จะส่งผลกระทบต่อตัวเราในตอนซ้อม ยิ่งเหล้า หรือบุหรี่ผมไม่แตะเลยครับ”

คิดว่าจะเล่นกีฬาฟุตซอลไปอีกนานแค่ไหน

เจ้าอังตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “ก็เล่นไปจนกว่าร่างกายของผมจะไม่ไหวครับ”

ถ้าถึงจุดอิ่มตัวแล้ว หลังจากนี้คิดจะทำอะไร

“ผมเริ่มมองหาธุรกิจอย่างอื่นทำแล้วนะครับ เป็นอาชีพเสริม เพราะผมเองก็ใกล้จะเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ผมชอบกินเบอร์เกอร์ ก็เลยคิดที่อยากจะเปิดร้านเบอร์เกอร์อิสลามครับ เพราะผมเป็นคนอิสลาม”

ศาสนาไม่มีผลต่อการซ้อม

พอรู้ว่าเจ้าอังนับถือศาสนาอิสลาม ก็เลยอยากรู้ว่ามีผลอะไรต่อการซ้อมหรือเปล่า “ไม่มีครับ เขาไม่ได้ห้าม ถึงเวลาเราก็ไปละหมาด อาจจะไม่ตรงบ้าง แต่ถ้าเกิดเลทนิดหน่อยก็ได้นะครับ แต่ห้ามเกินเวลาที่เขากำหนด (อิสลามมีถือศีลอดแล้วช่วงนั้นไหวหรอ) ผมแจ้งโค้ชแล้วครับ เราต้องบอกเขา ซึ่งโค้ชเองก็เข้าใจว่าเราถือศีลอดอยู่ เขาก็จะบอกให้เราซ้อมเท่าที่เราไหวนะ ถ้าไม่ไหวก็จะให้พัก ไม่ถึงขนาดที่ไม่ไหวก็ฝืนแบบนั้นไม่มีครับ”

ในความคิดของเรา ผู้หญิงที่จะเข้ามาเป็นแฟนนักเตะต้องเป็นแบบไหน

“ผมคิดว่า หนึ่งคือเขาต้องรู้ว่าการเป็นนักกีฬาไม่ได้มีเวลาให้ได้เท่ากับคนอื่น ยิ่งเป็นนักกีฬาอาชีพยิ่งหาเวลาว่างยากมาก ๆ เขาก็ต้องทำให้เราสบายใจไม่ใช่ทำให้เราเครียด ในบางครั้งเราต้องนอนเร็วบ้าง เราจะมานั่งคอยกังวลใจตอนเราพักผ่อนไม่ได้ว่าเขาจะคุยกับคนอื่นไหม หรือแอบไปเที่ยวกับใครหรือเปล่า ต้องทำให้เราเชื่อใจ อีกอย่างกำลังใจถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับนักกีฬา ก็ต้องมีให้กำลังใจให้เรา เวลาเหนื่อย ถ้ามาเชียร์เราได้ก็ยิ่งดีครับ สุดท้ายหลาย ๆ คน ชอบคิดว่าพวกนักกีฬาเจ้าชู้ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ทุกคนนะครับ เราต้องเชื่อใจกัน”

ฝากถึงคนที่มีฝันเหมือนเรา

“ผมเองก็ยังไม่ถึงกับประสบความสำเร็จนะครับ แต่ผมแนะนำว่า เราต้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง เคยมีโค้ชท่านหนึ่งสอนผมว่า การตั้งเป้าหมายเป็นของตัวเอง และทำให้ถึงเป้าหมาย ถือเป็นการบอกตัวเองให้พยายาม พัฒนาตัวเอง อดทนเพื่อให้ถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ คำว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น สามารถเป็นจริงได้เสมอ ผมเชื่ออย่างนั้นครับ”

ขอบคุณกำลังใจของเจ้าอัง

“อันดับแรกผมต้องขอบคุณครอบครัว พี่ดม อุดม ทวีสุข ที่ให้โอกาสเด็กบ้านนอกอย่างผม อาจารย์เจษฎาภรณ์ ป้อมขุนพรม (อาจารย์ รร.อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย) อาจารย์อำนาจ นาอับผล และอาจารย์ทุก ๆ ท่านที่ทำไห้ผมมีวันนี้ได้ครับ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจผมมาตลอด ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด จะพยายามทำให้ดีกว่าเดิม ยังไงก็ฝากเชียร์ทีมสโมสรม.เกษมบัณฑิตและตัวผมด้วยนะครับ”