กกต.ยันเปิดสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์สัปดาห์นี้ ไม่หวั่นถูกกดดันล่าชื่อถอดถอน ดึงผู้ทรงคุณวุฒิร่วมไต่สวนเลือกตั้ง
2 เม.ย.62-เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 704 ชั้น 7 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะนายอิทธิพรบุญประคองประธานกกต. เป็นประธานพิธีเปิดพร้อมด้วยกรรมการการเลือกตั้งร่วมมอบนโยบายในการประชุมชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาและข้อโต้แย้ง 37 คณะจำนวน 175 คน โดยนายอิทธิพร กล่าวว่า จากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 37 ประกอบระเบียบว่าด้วยกกต. ว่าด้วยการไต่สวน 2561 ในข้อ 74 ได้กำหนดให้กกต.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือบุคคลอื่นๆ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กกต.ได้มอบหมาย กกต.จึงได้แต่งตั้งบุคคลที่เป็นกลางทางการเมืองเป็นที่ประจักษ์จากผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ด้านนิติศาสตร์ สืบสวน บัญชี หรือด้านอื่นๆ ที่เหมาะสม ซึ่งการประชุมวันนี้เพื่อซ้อมการปฏิบัติงานให้มีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อว่าความรู้ความสามารถของแต่ละคนที่มีอยู่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี
“สถานการณ์จัดการเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา สังคมมีความคาดหวังการทำงานของกกต.อย่างมาก โดยอยากที่ผลการเลือกตั้งโดยเร็วถึงอาจไม่รวดเร็วทันใจ แต่ผมยืนยันว่ากกต. จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรมและรอบคอบ จึงขอมอบแนวทางการทำงานให้มีคุณภาพ คุณธรรม และรวดเร็วโดยเรื่องความรวดเร็ว จะต้องทำตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด เพราะความล่าช้าคือความอยุติธรรมนั่นเอง โดยทุกคนเป็นผู้พิจารณาไต่สวนสำนวน หากสำนวนไหนไม่สมบูรณ์จะมอบให้เลขาธิการกกต.ไต่สวนเพิ่มเติมได้ ซึ่งคณะอนุกรรมการที่มาในวันนี้ เป็นผู้มีความซื่อสัตย์และมีความเหมาะสมจะช่วยเหลือกกต. เพื่อให้ผลการปฏิบัติงานส่งผลถึงประชาชน กกต.จึงหวังว่าทุกคนจะปฏิบัติภารกิจต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถในการทำงานต่อไป“นายอิทธิพรกล่าว
ด้านนายปกรณ์ มหรรณพ กกต. กล่าวชี้แจงเรื่องบัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์ว่า กำลังจะตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายว่า ทำอะไรบกพร่องหรือไม่หรือเป็นความรับผิดชอบของใครซึ่งในมาตรา 114 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาาด้วยการเลือกตั้งส.ส. โดยเงื่อนไขมีอยู่ 4 ข้อแต่ข้อที่ต้องพิจารณามีข้อเดียว ซึ่งเป็นข้อที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากแต่เราไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจได้ เพราะเงื่อนให้เรามีอำนาจสั่งเมื่อบัตรเลือกตั้งไปถึงหน่วยเลือกตั้ง หลังจากมีการนับคะแนนแล้วเรา จึงจะสั่งได้ว่าเป็นบัตรเสีย แต่กรณีนี้บัตรไม่ได้ไปถึงและการนับการนับได้จบสิ้นแล้วเพราะหากจะมาขอให้นับเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ก็นับไม่ได้จึงวินิจฉัยเช่นนี้ โดยไม่ได้วินิจฉัยว่าเสียหรือดีถ้าวินิจฉัยว่าเสีย ฝ่ายดีจะยกขึ้นมาอ้างว่าขอให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่ถ้าวินิจฉัยว่าดีฝ่ายเสียก็จะยกขึ้นอ้างได้เช่นกัน
นายปกรณ์ กล่าวลต่อว่า ส่วนกรณีบัตรเกิน 4 ล้านกว่าใบนั้น ช่วงที่กกต.แถลงโดยระบบแรพิดรีพอร์ตขณะนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. ข้อมูลเพียงร้อยละ 93 ยังขาดอยู่ร้อยละ 7 ของประมาณ 30 ล้านเหลืออีก 2 ล้านกว่าคน ยังไม่ได้ประกาศโดยเมื่อจากหน่วยมาถึงเขตทำให้เขตต้องนำต่างประเทศแสนกว่าคนจากการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค. อีกกว่า 2 ล้านคนมารวมกันเมื่อรวมกันทั้งหมดคือ 4 ล้านเศษ ไม่มีการเพิ่มบัตรอะไรเข้าไปทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม กฎหมายกำหนดให้กกต. ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.พร้อมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 หรือ 333 เขตหากกกต.ไม่ทำตามกฎหมายเราก็จะผิดได้
ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น จะทำหน้าที่ไต่สวนสำนวนเพื่อส่งความเห็นไปยังยังกกต. อาทิ การให้เลือกตั้งใหม่ การให้ใบแดง หรือการส่งสำนวนไปที่ศาล ซึ่งในแต่ละสำนวนการไต่สวนจะแตกต่างกัน เพราะอยู่ที่พยานหลักฐานในคำร้องส่วนข่าวที่ออกมาว่ากกต.ให้ใบแดง 117 เขตนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ิ ยังกล่าวถึงสูตรการคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ยืนยันกกต.ยังไม่มีมติในเรื่องนี้ เพราะสูตรการคำนวณกำหนดไว้แล้วในกฎหมาย ซึ่งกกต.จะตอบให้สังคมทราบ พร้อมไปดูเจตนารมณ์การคำนวณส.ส. ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในการร่างกฎหมายว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีความชัดเจนในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่ากกต.ไม่กดดันที่มีพรรคการเมืองมากดดันเรื่องสูตรการคำนวณส.ส. เพราะกกต.ต้องตีความกฎหมายให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ ส่วนกรณีการล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนกกต.นั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่กกต.พร้อมจะชี้แจงทุกอย่างแต่อาจจะมีล่าช้าบ้าง เพราะมีคำร้องเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ฟังเหตุผลด้วย เพราะในสังคมประชาธิปไตยยึดเหตุผลเป็นหลัก