ธุรกิจอี–คอมเมิร์ซหรือออนไลน์ที่สร้างรายได้ ให้กับผู้ประกอบการอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ในทางตรงข้ามประเทศกลับสูญเสียรายได้ เนื่องจากไม่มีความชัดเจนในการจ่ายภาษีที่ถูกต้อง ขณะนี้กรมสรรพากรจึงอยู่ในช่วงเร่งการปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ อุดการรั่วไหล พร้อมพัฒนารูปแบบการจัดเก็บภาษีเพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยี
ล่าสุด ประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่าขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปที่ สนช. เพื่อพิจารณาร่างออกเป็นกฎหมาย โดยทางสรรพากรคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในช่วงปี 2563 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า
สำหรับข้อมูลการเติบโตของ ธุรกิจอี–คอมเมิร์ซ หรือออนไลน์ พบว่า ในปี 2559 มีอัตราเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2.52 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 40.08% ของมูลค่าขายสินค้าและบริการทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 12.42%
ส่วนมูลค่าขายนั้นส่วนใหญ่เป็นมูลค่าอี–คอมเมิร์ซ ประเภทธุรกิจต่อธุรกิจ( B2B) คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1.38 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปี 58 ประมาณ 3.50%
รองลงมาคือ มูลค่าอี–คอมเมิร์ซ ประเภทธุรกิจต่อผู้บริโภค ( B2C) จำนวน 7.29 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 58 ประมาณ 43 % และมูลค่าอี–คอมเมิร์ซ ประเภทธุรกิจต่อภาครัฐ (B2G ) มูลค่าประมาณ 4 แสนล้าน เพิ่มขึ้นจากปี 58 ประมาณ 3.21%