กรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิง ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ไหมดี เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดภาค 4 เสียชีวิต บริเวณสี่แยกปฐมพร อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อคืนวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สาเหตุจากปมขับรถปาดหน้ากันนั้น ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ นายมีศักดิ์ สุภาธนกิจ หรือ “ไอ้ตั้ม” ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและเข้ามอบตัวเพราะกลัวว่าจะถูกวิสามัญ กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานต่าง ๆ อีกทั้ง นายมีศักดิ์ ให้การซัดทอดว่า เพื่อนของเขาชื่อ “ไอ้รัก” เป็นผู้ก่อเหตุยิงตำรวจเสียชีวิตก่อนนำมาสู่การออกหมายจับ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.ชุมพร จับกุม “นายรัก” ได้แล้ว พร้อมให้การรับสารภาพว่ายิง ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ เสียชีวิตจริง
เช้าวันนี้ (20 ก.ค.61) พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังการตำรวจภูธร จ.ชุมพร และกำลังตำรวจชุดจับกุม ได้นำตัว นายกิตติพงษ์ พิทักษ์สุข หรือ “ไอ้รัก” อายุ 35 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซอง และเครื่องกระสุนอีก 6 นัด มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลัง นายกิตติพงษ์ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 61 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกับ นายมีศักดิ์ สุภาธนกิจ หรือ “ตั้ม” ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิง ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ไหมดี เสียชีวิตบริเวณสี่แยกปฐมพร ถนนเพชรเกษม ม.13 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัว นายกิตติพงษ์ หรือ “ไอ้รัก” ไปทำแผนเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุ โดยมีบรรดาไทยมุงที่รู้ข่าว แห่มาเฝ้าดูการทำแผนในครั้งจำนวนมาก
สอบสวน นายกิตติพงษ์ หรือ “ไอ้รัก” ให้การรับสารภาพว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลา 2 ทุ่ม นายมีศักดิ์ หรือ “ไอ้ตั้ม” ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ได้โทรศัพท์มาหา พร้อมเล่าว่าเกิดเหตุขับรถปาดหน้ากันมาตั้งแต่รอยต่อจังหวัดชุมพร-สุราษฎร์ธานี ขอร้องให้ออกมาช่วยเหลือ ตนเองจึงได้นำอาวุธปืนลูกซอง ซึ่งเป็นของตนเองและชวนเพื่อนอีก 2 คนคือ “นายปอ” กับ “นายเอ็ม” โดยบอกให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนทำธุระบริเวณชุมพรเมืองใหม่ จนกระทั่งได้พบรถกระบะของ “ไอ้ตั้ม” และรถเก๋งคันคู่กรณี ตนเองได้ขับตามมาติด จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ “ไอ้ตั้ม” ได้ขับแซงประกบและเปิดกระจกตะโกนให้ นายชาณัฐ บุญชู คนขับรถเก๋งคู่กรณีจอด โดย “ไอ้ตั้ม” ขับรถไปจอดอยู่ด้านหน้า ส่วนตนเองจอดรถเก๋งนิสสัน สีบรอนซ์ทอง ปิดด้านท้าย หลังจากนั้น “ไอ้ตั้ม” ได้ลงจากรถมาเคาะกระจกด้านคนขับ แล้วก็ได้ยิน “ไอ้ตั้ม” ตะโกนพร้อมวิ่งมาที่ตนว่า ปืน แล้วก็เห็นคนที่นั่งมาด้านซ้าย (ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ผู้ตาย) ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจได้ถืออาวุธปืนลงมาด้วย ตนเองจึงคว้าปืนที่อยู่ในกระเป๋าสะพายชักขึ้นมายิงใส่ ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ระยะประมาณ 2 เมตรจนบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี
พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังการตำรวจภูธร จ.ชุมพร เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นไว้เกี่ยวกับทะเลาะวิวาทจาการใช้รถใช้ถนนจนบานปลายไปสู่การร่วมกันฆ่าโดยเจตนา แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นเรื่องยาเสพติด เนื่องจากทาง ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ตร.ปส.) ส่วนผู้ก่อเหตุพบว่าเคยมีประวัติเรื่องยาเสพติดด้วย และทางตำรวจได้ตั้งข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วน นายปอ และ นายเอ็ม ไม่ได้ตั้งข้อกล่าวร่วมกันฆ่า เพราะจากการสอบสวนไม่พบพิรุธหรือรู้เห็นในการก่อเหตุจึงได้สอบสวนเป็นพยานในคดีดังกล่าวแล้วปล่อยตัวไป