เกิดอุบัติเหตุกลางสี่แยก ในเขต อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี มี 2 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ขับรถเก๋งมาด้วยความเร็วสูง พอถึงสี่แยกก็ไม่เบรก แต่กลับฝ่าสี่แยกไปทันที จึงตัดหน้ารถกระบะที่ขับมาจากอีกเส้นทางแบบกระชั้นชิด เป็นเหตุให้รถทั้งสองคันชนกันอย่างจัง ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเสียชีวิตทั้ง 2 คน
ภาพจากกล้องวงจรปิด จับไว้ได้อย่างชัดเจน เมื่อสองหนุ่มชาวรัสเซียซิ่งเก๋งยาริสมาด้วยความเร็ว ฝ่าสี่แยก ตัดหน้ารถกระบะ และชนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้หนุ่มรัสเซียทั้งสองคน บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตทั้งคู่ในเวลาต่อมา
นายถาวร พรหมฉิม นายอำเภอท่าฉาง พร้อมด้วย นายประดิษฐ์ จันทร์แจ่มใส นายก อบต.ท่าเคย ร่วมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่บริเวณสี่แยกบ้านใหญ่ ถนนพุนพิน-พระธาตุ (สายล่าง) สาย4112ตัดกับถนนทางหลวงชนบท หมายเลข สฎ 2007 ในเขต อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี หลังสามารถบันทึกภาพในขณะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน
โดยภาพที่บันทึกได้ และนำมาตรวจสอบ เป็นกรณีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 4กง5702 กทม. ขับมาด้วยความเร็ว แล้ววิ่งฝ่าสี่แยก มาตัดหน้ารถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ก สีบอร์นทอง ทะเบียน บพ.1700 สุราษฎร์ธานี อย่างกระชั้นชิด จนถูกชนเข้าอย่างจัง และกระเด็นตกถนน ทำให้รถมีสภาพด้านซ้ายพังยับเยิน และภายในมีผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นาวต่างชาติทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลบ้านฉาง และทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากการตรวจสอบ ทราบชื่อผุ้ขับขี่รถเก๋งยาริส คือ นายดมิทรี เซเมนอฟ (Mr.Dmitry Semenov) อายุ 31 ปี และ นายอิวาน โซโรคิน (Mr.Ivan Sorokin) อายุ 32 ปี เป็นผู้โดยสาร ทั้งคู่สัญชาติรัสเซีย ส่วนผู้ที่ขับขี่และโดยสารมากับรถกระบะได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย โดยเป็นชาวต่างชาติเช่นกัน
นายอำเภอท่าฉาง กล่าวว่า เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเสียชีวิตถึง 2 ราย ซึ่งทางนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการในเรื่องการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นทางอำเภอได้ดำเนินการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อประสานไปยังสถานทูตรัสเซีย เพื่อจะได้ประสานไปยังญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายให้รับทราบ
ด้านนายก อบต.ท่าเคย เปิดเผยว่า บริเวณสี่แยกดังกล่าว มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากมีแสงสว่างค่อนข้างน้อย ทำให้ผู้ที่ขับขี่และสัญจรในเส้นทางดังกล่าว อาจจะไม่ได้สังเกตว่าเป็นสี่แยก จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้งนี้อยากจะขอวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตั้งอุปกรณ์ เพื่อแจ้งเตือนหรือเพิ่มแสงสว่างให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนต่อไป