สัตว์เลี้ยงแสนรักของเหล่าทาสหมา ทาสแมว ดูท่าท่างจะมีอิทธิพลในทุกประเทศ ทุกภาษา อย่างประเทศจีนเองนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสมาคมพิทักษ์สัตว์เลี้ยงขนาดเล็กแห่งประเทศจีน (China Small Animal Protection Association) ขึ้นในปี พ.ศ. 2535 กระแสความนิยมสัตว์เลี้ยงก็เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่กระเป๋าหนักที่ต้องการมีน้องแมว น้องหมามาเป็นเพื่อนคลายเหงา โดยเฉพาะช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 (COVID-19) นั้นธุรกิจสัตว์เลี้ยงบูมขึ้นมาก เพราะเจ้าของเปย์ได้สะดวกมากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์
บริษัทวิจัย Euromonitor International ของอังกฤษได้ระบุว่าในปี 2563 ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Care) ในประเทศจีนมีมูลค่า 72,208 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 20.3% จากปีที่ผ่านมาและคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์ (Pet Food) 43,782.7 ล้านหยวน และยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์ (Pet Products) 28,425.3 ล้านหยวน
นางสาวศุภรา เสกาจารย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ช่วงโควิด-19 นี้ อาหารสัตว์เลี้ยงที่ถูกช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับอาหารมนุษย์ จากนั้นก็กลายเป็นความเคยชิน ผลสำรวจพบว่าในช่วงการระบาดที่ร้านค้าห้ามเปิดให้บริการนั้น 90% ของร้านค้าเริ่มขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม WeChat และกว่า 70% ของร้านค้าระบุว่ากำลังจะปรับตัวเป็นร้านค้าออนไลน์อย่างเต็มตัว ส่วนอีก 69% ของร้านค้าสัตว์เลี้ยงก็กำลังวางแผนที่จะเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์ม Meituan, Eleme และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องพฤติกรรมของผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เปลี่ยนไป เจ้าของร้านค้าอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ตั้งแต่การระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้กลุ่มเจ้าของสัตว์เลี้ยงระวังเรื่องโรคติดต่อในสัตว์เพิ่มมากขึ้น หลายคนซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับสัตว์เลี้ยง ทุกครั้งที่พาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นก็ต้องเช็ดทำความสะอาดเพื่อป้องกันการเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาในที่พักอาศัย ทำให้ยอดขายยาฆ่าเชื้อสำหรับสัตว์เลี้ยงได้พุ่งสูงขึ้นด้วย
จาก 2 ประเด็นหลักที่แสดงให้เห็นถึงการพลิกโฉมธุรกิจสัตว์เลี้ยงในจีนส่งผลดีต่อประเทศไทย เนื่องจากจีนเป็นตลาดส่งออกอาหารสัตว์ที่สำคัญของไทย โดยในช่วงเดือนมกราคม – เมษายนของปีนี้ จีนมีการนำเข้าอาหารสัตว์สำหรับแมวและสุนัขจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 99.63% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยคู่ค้า 5 อันดับแรก ได้แก่ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ไทย นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ซึ่งการติดอันดับต้นๆ นี้ทำให้ไทยต้องเร่งพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ปัจจุบันสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยทุกรายการไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าในจีนจากการมีเอฟทีเอร่วมกัน ผู้ประกอบการควรศึกษาแนวโน้มตลาดและความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ต้องหาพันธมิตรการค้าและผู้จัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาสินค้าคุณภาพสูงที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสัตว์เลี้ยง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละสถานการณ์