WHO ประกาศ วอนถึงประเทศร่ำรวย หยุดแจกวัคซีนโควิดเข็ม 3 อ้างความเหลื่อมล้ำในประเทศยากจน ทั่วโลก หวังว่ามั่วโลกได้รับวัคซีน 70 % ในปี 2022
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ทางด้านขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องให้ประเทศที่ร่ำรวยหยุดการแจกจ่ายวัคซีนกระตุ้น Covid-19 โดยอ้างถึงความไม่เท่าเทียมกันของวัคซีนทั่วโลก กล่าวว่าการหยุดควรใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือน เพื่อให้ในหลายประเทศทั่วโลก มีโอกาสบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีน 10% ของประชากรทุกประเทศภายในสิ้นเดือนกันยายน
เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวในการแถลงข่าว กล่าวว่า “เราต้องการการพลิกกลับสถานการณ์การกระจายวัคซีน จากวัคซีนส่วนใหญ่ที่ส่งไปยังประเทศที่มีรายได้สูง ไปสู่ประเทศที่มีรายได้ต่ำ ”
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การฉีดวัคซีนให้กับประชากรทั้งหมดในโลกมีความสำคัญต่อการยุติการระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19 เชื้อโควิดเดลต้า ที่กำลังทำลายล้างสหรัฐฯ หลังจากที่ถูกตรวจพบครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์ในอินเดีย และเชื้อกระจายออกไปทั่วโลก ซ่ำๆ จนเกิดการกลายพันธุ์ในที่สุด ผลที่ได้คือจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้งมีโอกาสสูง ที่จะหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของวัคซีน
การเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากประเทศอิสราเอล ประกาศฉีดวัคซีนเสริมแก่ประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับสาธารณรัฐโดมินิกัน ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศเฮติ เพิ่งได้รับวัคซีนเข็มแรก เมื่อไม่นานมานี้
กรมสาธารณสุขซานฟรานซิสโกและโรงพยาบาลซักเคอร์เบิร์ก ซานฟรานซิสโก เจเนอรัล เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า พวกเขาจะอนุญาตให้ผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 1 โดส ฉีดวัคซีน mRNA เสริมได้ และด้านบริษัทไฟเซอร์ เจ้ายักษ์ใหญ่ด้านวัคซีนยืนยันว่าผู้คนจะต้องฉีดวัคซีนกระตุ้น ในขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค กล่าวว่าข้อมูลที่รับประกันความจำเป็นในการใช้ยาเสริมนั้นยังไม่ชัดเจน
เจ้าหน้าที่ของ WHO ยังกล่าวอีกว่าหลังเดือนธันวาคม พวกเขาหวังว่าจะมี 70% ของโลกที่ได้รับการฉีดวัคซีนภายในกลางปี 2022 และจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับโลกหวังว่าประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงจะปฏิบัติตามคำขอและที่สำคัญกว่านั้นคือการเรียกร้องให้ยุติความไม่เท่าเทียมกันของวัคซีน และการแจกจ่ายวัคซีนเข็ม3
อ้างอิง – www.cnbc.com
ข่าวที่น่าสนใจ
สามารถติดตามข่าวสาร และ อัปเดทสถานการ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
