พ.ร.ก.เงินกู้ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถึงเรื่องแผนพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน ของรัฐบาล โดยระบุว่า เงินกู้จำนวนมหาศาลของรัฐบาลยังไม่มีทิศทางการวางอนาคตให้ประเทศสักเท่าใด ทั้งยังทำให้มีความเป็นห่วงว่าจะมีการนำทรัพยากรและเงินกู้จำนวนนี้ไปหาประโยชน์ทางการเมืองและหาประโยชน์ส่วนตนของพวกพ้อง โดยเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต่างเฝ้าติดตามและอยากเห็นการใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมียุทธศาสตร์ จึงอยากฝากให้รัฐบาลใช้งบประมาณเหล่านี้ เป็นเครื่องมือไปสร้างอุตสาหกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับประเทศ
นายสมพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ประชาชนทั้งประเทศจะต้องเป็นผู้ชดใช้หนี้ก้อนนี้ต่อไปอีกยาวนาน ดังนั้นเงินกู้จากสถานการณ์นี้จึงต้องนำไปใช้ด้วยความรับผิดชอบและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยแท้จริง ไม่ใช่การแบ่งเค้กชิงผลประโยชน์ สร้างฐานเสียง และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องผ่านโครงการต่าง ๆ ภายใต้เงินกู้ก้อนนี้
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า พ.ร.ก.เงินกู้ทั้ง 3 ฉบับทำให้คนไทยตกเป็นหนี้ก้อนมหาศาล รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหาร มีอำนาจในการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวอย่างเต็มที่ แต่กลไกการตรวจสอบและกำกับการใช้จ่ายเงิน มีเพียงการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เพียงไม่กี่คน ตรวจสอบเงินจำนวนมหาศาล โดยไม่ต้องรายงานการใช้จ่ายต่อฝ่ายนิติบัญญัติ
ส่วน พ.ร.ก.ช่วยเหลือวิสาหกิจ หากไม่มีหลักการที่รัดกุมอาจเปิดช่องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเกิดการเลือกปฏิบัติ ซึ่งอาจถูกกล่าวหาว่าใช้เงินรัฐอุ้มคนรวย จนก่อให้เกิดปัญหาคอร์รัปชั่น และเกิดความเสี่ยงต่อความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศได้