ชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย. — นิกเคอิเอเชี่ยน รีวิว สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่ารัฐบาลเตรียมปิดกั้นเว็บไซต์มากกว่า 2,200 เว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงเพจเฟสบุ๊ก และบัญชีทวิตเตอร์ ที่มีเนื้อหา “ไม่เหมาะสม” ก่อนหน้าที่จะมีการจัดการชุมนุมใหญ่ของของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่จะมีขึ้นในวันนี้
ด้านนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)เปิดเผยว่าทางกระทรวงดีดีเอสได้สั่งผู้ให้บริการเว็บไซต์และเพจต่างๆ ที่ละเมิดกฎหมายหมายไทย ลบเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงเป็นต่อความมั่นคงของไทย และมีเนื้อหาก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากเว็บและเพจต่างๆภายในเวลา 15 วัน โดยในเวลานี้ มีเว็บไซต์และเพจต่างๆที่ถูกปิดกั้นไปแล้ว 1,276 เว็บ และมีเว็บไซต์และเพจอีก 1,024 เว็บที่กำลังจะถูกจำกัดเข้าเข้าถึงในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้
Facebook เตรียมดำเนินคดีกับไทย กรณีสั่งบล็อกกลุ่ม รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส
แอมเนสตี้ ลั่นไม่เห็นด้วยที่ Facebook บล็อก รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ตามคำขอไทย
ทั้งนี้ คำกล่าวนี้ของนายพุฒิพงษ์มีขึ้นเพียง 4 วันก่อนหน้าที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่จะจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2014
เมื่อเดือนที่ผ่านมา กระทรวงดีอีเอสเพิ่งปิดกั้นการเข้าถึงกลุ่มเฟสบุ๊กรอยัลลิส มาร์เก็ตเพลสในไทย ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน โดยนายพุฒิพงษ์ระบุว่า กลุ่มดังกล่าวมีเนื้อหาละเมิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผย ซึ่งถือเป็นเรื่องต้องห้ามในไทย
นิกเคอิเอเชี่ยน รีวิว ยังเปิดเผยว่าแม้นายพุฒิพงษ์จะระบุว่าการปิดกั้นเว็บไซต์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล แต่บรรดานักเคราะห์ก็ต่างมองว่าโซเลียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารสำคัญของกลุ่มผู้ประท้วง และมีอิทธิพลต่อคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาอยู่กับอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นประจำ
นิกเคอิ เอเชี่ยน รีวิว ได้สัมภาษณ์ ผศ. ดร. ภูเบศร์ สมุทรจักร จากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม จากมหาวิทยาลัยมหิดลระบุว่าการปิดเพจและเว็บไซต์ต่างๆไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเพจต่างๆเหล่านี้สามารถเปิดขึ้นใหม่ได้ง่ายในทันที ไม่มีทางที่ยับยั้งเว็บไซต์ ที่มีเนื้อหาต่อต้านรัฐบาได้ลอย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่นกรณี กลุ่มเฟสบุ๊กรอยัลลิส มาร์เก็ตเพลส ที่มีสามารถเปิดกลุ่มใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว และมีสมาชิกพุ่งสูงมากกว่า 500,000 คนหลังเปิดเพจได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง