7 ก.พ.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ทางเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง งดปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากทางเขื่อนไม่มีปริมาณน้ำที่จะจัดส่งไปให้ในการหล่อเลี้ยงข้าวนาปรังได้ จึงขอให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน อย่างเช่นเกษตรกรในพื้นที่ บ.พลกรัง ม.1 ต.พลกรัง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ต่างกันช่วยเร่งนำจอบ เสียม มาทำการปรับหน้าดินในพื้นที่เพาะปลูกที่เคยใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีหลายพันไร่ เพื่อเตรียมทำการเพาะปลูกหอมแบ่ง เพื่อหารายได้เสริมในช่วงที่ไม่ได้มีการเพาะปลูกข้าวนาปรัง
ทางด้าน นางทองหนัก ชูคันหอม อายุ 53 ปี เกษตรกรที่หันมาเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อย เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ตนเองนั้นต้องมีปรับเปลี่ยนจากการเพาะปลูกข้าวมาเพาะปลูกหอมแบ่งแทนนั้น เนื่องจากทางชลประทานและทางนายอำเภอได้ขอความร่วมมือให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน เพราะปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ภายในเขื่อนลำตะคอง มีไว้ในการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ซึ่งทางเกษตรกรก็เข้าใจและพร้อมที่จะปฏิบัติตาม ดังนั้นจึงทำให้ตนเองได้ใช้พื้นที่ที่เคยเพาะปลูกข้าวนาปี จำนวน 5 ไร่ มาทำการปรับหน้าดินพร้อมทั้งยกคันดินให้เป็นร่อง เพื่อเตรียมเป็นพื้นที่ในการปลูกหอมแบ่งขายเนื่องจากเป็นพืชที่ใช้น้ำในการดูแลน้อยกว่า อีกทั้งต้นทุนแต่ละไร่อยู่ที่ประมาณ 7-8 พันบาท แต่หากอยู่ในช่วงที่ราคาต้นหอมมีราคาสูงก็จะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าไร่ละ 7-8 หมื่นบาท ในระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งตนเองก็คิดว่าเป็นรายได้ที่จะนำมาใช่จ่ายในครอบครัวในช่วงที่ไม่ได้มีการเพาะข้าวนาปรัง
ขณะที่สถานการณ์ปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ล่าสุด มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 106.078 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 33.73 ของความจุกักเก็บ 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร