ดีเอสไอ รับสำนวนคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเคร็ท แล้ว เตรียมตั้งที่ปรึกษาพิเศษ ขึ้นมาร่วมทำคดีวางแนวทางการสอบสวน ขณะที่ตำรวจนครบาลวังทองหลาง ควบคุมตัว “ศศิธร” หุ้นส่วนใหญ่ วิคตอเรียซีเคร็ท ฝากขังศาลอาญาแล้ว วืดประกันคดี ก่อนคุมตัวส่งเข้าเรือนจำ
ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง คุมตัว น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ของสถานบริการ “วิคตอเรียซีเคร็ท” ฝากขังศาลอาญารัชดา ต่อมา น.ส.ศศิธร ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดจำนวน 3 ล้านบาทขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิเคราะห์สภาพแห่งข้อหา และลักษณะความผิดตามคำร้องฝากขัง ประกอบกับพนักงานสอบสวนผู้ร้องคัดค้าน เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของกิจการที่มีการจับกุม ในชั้นนี้เห็นควรให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปพลางก่อน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และยกคำร้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะนำตัว น.ส.ศศิธร ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
ขณะที่ พ.ต.ท.สุภัทร์ ธรรมธนารัก ผอ.กองคดีค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมารับ สำนวนคดีค้ามนุษย์ สถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเคร็ท จากพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง หลังดีเอสเอสไอเซ็นต์รับเป็นคดีพิเศษ โดยเปิดเผยว่า สำนวนทั้งหมดที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานได้ หลังจากนี้ดีเอสไอจะนำไปดำเนินการต่อ ซึ่งจะนัดประชุมคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดว่าจะวางแนวทางการสอบสวนอย่างไร และจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อทำคดีดังกล่าว โดยจะตั้งคณะที่ปรึกษาพิเศษ ทั้งหน่วยงานจากสำนักงาน ปปง. ,ปปท. ,ปคม. ,กรมการปกครอง และอัยการ ขึ้นมาเป็นชุดทำงานโดยเร็วที่สุด พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ดีเอสไอมีหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการวิคตอเรียซีเคร็ทชัดเจนแล้ว
ส่วนการฝากขังผู้ต้องหาในคดีนี้ ทั้ง 8 ราย รวมนิติบุคคล หลังจากนี้ดีเอสไอจะรับเป็นผู้ดำเนินการในการฝากขังครั้งต่อไป ส่วนจะออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่ จะต้องไปตรวจสำนวนที่ได้รับวันนี้ก่อน สำหรับประเด็นการเรียกรับผลประโยชน์จากหน่วยงานภาครัฐ กรมการปกครองได้ส่งข้อมูลให้ ปปท. ดำเนินการแล้ว
ด้านนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ NVEDER กล่าวว่า ในวันที่เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบป้ายประกาศวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และคอมพิวเตอร์คาดว่าจะมีข้อมูลต่างๆ อยู่ในนั้น เพราะไม่พบหลักฐานที่เป็นเอกสารเลย ส่วนกรณีที่พบบัตรใช้บริการของนายตำรวจ เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งภายในบัตรระบุเพียงตำแหน่ง วันเวลา หมายเลขห้อง และรหัสหญิงสาวที่ให้บริการ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยหลักฐานอื่นๆ ประกอบแต่วิธีการที่จะให้หญิงสาวเหล่านั้นมาชี้ตัวว่าบุคคลที่ถูกพาดพิงว่ามาซื้อบริการเธอหรือไม่นั้น บางรายอาจไม่สามารถจดจำใบหน้าผู้ซื้อบริการได้ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบพยานหลักฐานทั้งหมด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอกำลังรวบรวม และพิสูจน์พยานหลักฐานทั้งหมด คาดว่าอาจพบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่ม และจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป