ผอ.ณัฐาภพ เคยอ้างถึงแชตไลน์ ซึ่งมีพื้นหลังเป็นภาพเซลฟี่โอบไหล่เด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และมีข้อความเรียกเด็กหญิงว่า “เมียจ๋า” นั้นว่าเป็นการตัดต่อ ดัดแปลง แก้ไข อีกทั้งรูปก็เป็นการใส่ร้ายจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีความขัดแย้งกันภายในโรงเรียน วันนี้เราจะลองพิสูจน์ดูว่า การตัดต่อแชตไลน์ของ ผอ. และเด็กสาว เพื่อแชร์ต่อ ๆ ไป จริง ๆ แล้วทำได้ยากง่ายขนาดไหน
อย่างแรกเลย ก็คือ ต้องมี ภาพเซลฟี่ ก่อน กรณีนี้ ผอ. และเด็กหญิงถ่ายคู่กันอยู่ 2 คน // รู้กันอยู่แค่ 2 คน // ภาพนี้ก็น่าจะอยู่ในโทรศัพท์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง ของ 2 คน // ดังนั้นถ้าภาพนี้จะหลุดไป // ก็ต้องเป็นคนหนึ่งคนใดใน 2 คนนี้ เมื่อมีภาพแล้วก็ต้องมีบทสนทนา // จากแชตไลน์ที่หลุดมานี้ // บทสนทนาซึ่งอยู่ฝั่งขวาคือของเด็กหญิง หมายถึงว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์ // ส่วนฝั่งซ้ายคือของอีกฝ่ายหนึ่งที่ส่งข้อความเข้ามา // ซึ่งในที่นี้ก็คือผอ. // สิ่งที่จะต้องเติมเข้ามาคือ บทสนทนา // สติ๊กเกอร์ // หรือแม้กระทั่งเวลา รวมถึงสถานะที่ว่า “อ่านแล้ว”
เสร็จแล้ว ถึงทำได้แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยทักษะแลความชำนาญ แต่หากคนที่ประสงค์ร้าย ต้องการใช้วิธีแฮกไลน์ อันนี้จะทำได้ยากหากไม่มี ID Line แต่ก็ยังมีวิธีต่อไปนี้ คือ อาจได้ภาพพื้นหลังที่ต้องการมา จากนั้น ก็ใช้ไลน์ของใครก็ได้ 2 คน แต่เปลี่ยนชื่อของทั้ง 2 ไลน์นั้นให้เป็นชื่อที่เราต้องการ วิธีนี้ก็อาจสร้างสถานะการณ์ให้เกิดความเข้าใจผิดได้
แต่ในกรณีที่ง่ายที่สุดที่ทำให้ไลน์หลุด คือ การที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชะล่าใจส่งให้ใครที่เราไว้ใจได้ดู บางที…คนที่เราไว้ใจได้รู้ โลกก็จะได้รู้ภายในไม่กี่วินาทีนั่นเอง