อิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “เบบินคา” ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งเมื่อในช่วงข่าวเที่ยงไบรท์ทีวี เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดที่ อ.ภูเพียง ระดับน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 1 เมตรแล้ว เจ้าหน้าที่และประชาชนต้องผูกเชือกไว้ที่กำแพงบ้านเพื่อดึงตัวไม่ให้ไหลไปกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
สภาพน้ำท่วมทะลักเข้าหมู่บ้านและพบว่าระดับน้ำบางจุดใกล้มิดกำแพงบ้านแล้ว ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ปริมาณน้ำล่าสุดยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดที่ท่วมสูงที่สุด อยู่ที่ประมาณ 1 เมตร 30 เซนติเมตร และด้วยสถานการณ์มวลน้ำที่ไหลค่อนข้างเชี่ยวกราก ทำให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องเข้าไปตัดกระแสไฟฟ้า ชาวบ้านบางคนต้องนำเชือกมาขึงตามริมกำแพง เพื่อใช้สำหรับยึดเกาะและป้องกันการไหลตามน้ำไป
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาใน อ.ภูเพียง น้ำล้นทะลักท่วมพื้นที่ติดริมแม่น้ำน่านที่ ต.ฝายแก้ว, ม่วงตึ๊ด และ ต.ท่าน้าว โดยเฉพาะจุดบ้านแสงดาว – ท่าล้อ ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร 30 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทหารและป้องกันบรรเทาสาธารณภัย นำเรือท้องแบนไว้บริการประชาชนสัญจรเข้าออกบ้านเพื่อไปทำงาน และซื้ออาหารน้ำดื่มเพื่อแจกจ่ายผู้ประสบภัยต่อไป
“พายุเบบินคา” ถล่มแม่ฮ่องสอน
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่วนอุทยานทุ่งบัวตอง ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม ทำให้บ่อปลาถูกน้ำท่วมพังและปลาที่เลี้ยงไว้ ถูกน้ำป่าซัดหายไปทั้งหมด ส่วนที่บ้านหว่าโน ปริมาณน้ำที่ดอยหัวน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้เตือนให้ประชาชนในพื้นที่ พร้อมรับมือน้ำป่าไหลหลากเป็นการด่วน ขณะที่บ้านแม่สามแลบ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 36 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย ออกลาดตระเวนเส้นทางโดยใช้รถจักรยานยนต์ เพื่อสำรวจเส้นทางดินสไลด์ พบว่า ระหว่าง บ.แม่สามแลบ – บ.แม่ตอละ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย มีถนนทรุดตัวเป็นช่วง ๆ และมีดินภูเขาสไลด์ลงปิดทับเส้นทาง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเครื่องจักรกลหนักไปเกลี่ยดินและหินออกจากเส้นทางให้สามารถสัญจรได้แต่ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังในช่วงนี้
เส้นทาง “เชียงใหม่-เชียงราย” ยังปิด รอลุ้นฝนไม่ตก
ส่วนความคืบหน้าหลังน้ำป่าจากดอยห้วยแก้วและดอยนาง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ไหลทะลักเข้าท่วมถนนเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณกิโลเมตรที่ 43 บ.ปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างถนนถนน ทำให้ถนนถูกกัดเซาะจนได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร ส่วนบริเวณกิโลเมตรที่ 47 ยังมีรถบรรทุกกระเทียมประสบอุบัติเหตุตกลงในร่องถนนที่ถูกน้ำกัดเซาะจนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังคงปิดเส้นทางไม่ให้รถสัญจรผ่านและเร่งซ่อมแซมถนน ตั้งแต่หน้าเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาและระดับน้ำลดลงจะเปิดเส้นทางให้รถผ่านได้ในช่วงเย็นวันนี้ (18 ส.ค.) ขณะที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง และเกรงระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก จึงยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำหรือเข้าใกล้ลำน้ำจนกว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
เตือนชาวสังขละบุรีเตรียมเฝ้าระวังน้ำท่วม
เช่นเดียวกับภาคกลางใน จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำ 3 สาย คือ แม่น้ำบีคลี่, รันตี และแม่น้ำซองกาเลีย ที่ไหลมาบรรจบกันที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บริเวณวัดวังก์วิเวการาม ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตอนนี้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น ทำให้น้ำเหลืออีกแค่ประมาณ 3 เมตร 50 เมตร ก็จะถึงพื้นสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือ “สะพานมอญ” ส่วนที่บริเวณหอระฆังและโบสถ์วัดวังก์วิเวการามหลังเก่ากำลังจะถูกน้ำท่วมจนมิดเนื่องจากปริมาณน้ำเหลืออีกประมาณ 1-2 เมตร
ส่วนประชาชนที่ปลูกบ้านบริเวณเชิงสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ฝั่งชุมชนชาวมอญ ต้องอพยพไปอยู่ที่สูงหรือไปอยู่กับญาติชั่วคราว เพราะน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวหลายหลัง แต่ทุกครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ จะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นเขตกันน้ำท่วมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ “กฟผ.” ที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรับทราบและเข้าใจกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบางส่วน กังวลว่าปีนี้อาจจะท่วมเหมือนปี 2534 สำหรับปริมาณน้ำที่เขื่อนวชิราลงกรณ มีน้ำอยู่ที่ 89% ระบายน้ำวันละ 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จนถึง 22 ส.ค.นี้ จากนั้น 23-27 ส.ค. เร่งระบายเพิ่มผ่านสปิลเวย์ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
น้ำระลอกใหม่เข้าท่วมรีสอร์ทแก่งกระจาน
ปิดท้ายกันที่เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี น้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น อยู่ที่ 751 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 106 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง ทำให้เขื่อนแก่งกระจานต้องเร่งระบายน้ำออกที่ 22.39 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนมีน้ำสูงขึ้น เช่นที่ บ้านถ้ำเสือ ต.แก่งกระจาน ระดับน้ำท่วมสะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรีสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านถ้ำเสือ บอกว่า ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และในขณะนี้ก็ยังเพิ่มสูงขึ้น ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้และต้องใช้เส้นทางที่อ้อมไกลกว่า 20 กิโลเมตร ซึ่งจุดที่น้ำท่วมสะพานดังกล่าว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546 ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง