รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเรียกประชุมด่วน หลัง สปสช. ประกาศหลักเกณฑ์ใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคมให้โรงพยาบาลตามสิทธิ ต้องมีศัลยแพทย์ประจำในวันจันทร์ -ศุกร์ เวลาราชการ จึงจะผ่านเกณฑ์การตรวจประเมิน และรับสิทธิเบิกงบ สปสช. ได้ ขณะที่ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยืนยันไม่รับข้อเสนอนี้ ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป คนไข้บัตรทองไม่สามารถผ่าตัดหัวใจฟรี ที่รพ.มงกุฎวัฒนะได้ หากจะทำต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
นายแพทย์ประจักษ์วิช เล็บนาค รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชี้แจงกรณีนี้ว่า โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จะขอยุติมาตรการบังคับหน่วยบริการประจำในการรับการส่งต่อเฉพาะด้าน การทำหัตถการรักษาโรคหลอดเลือดและการผ่าตัดโรคหัวใจ เนื่องจากไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ จะส่งผลในปีงบประมาณปี 61 นี้ (ตั้งแต่ 1 ต.ค.60) โรงพยาบาลจะไม่ได้รับงบส่วนนี้ ซึ่งรพ.มงกุฎวัฒนะไม่ผ่านเพียงเกณฑ์เดียว คือ ไม่มีแพทย์ผู้ปฏิบัติงานประจำ แต่หากหลังจากเดือนตุลาคมนี้ ทางโรงพยาบาลหาแพทย์มาประจำได้ ทาง สปสช.ก็จะประเมินให้เข้ามาอยู่ในหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการรักษาโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในระบบให้เร็วที่สุด ส่วนประชาชนที่เป็นผู้ป่วยที่มีการนัดผ่าตัด หรือ ผู้ป่วยที่ส่งต่อมายังโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม นี้ อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง หรือจะขอส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น ที่เข้าหลักเกณฑ์ก็ได้ ซึ่งยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบเนื่องมีโรงพยาบาลอื่นสามารถรองรับได้ อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยังอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง 30 บาท ตามปกติ ขอประชาชนอย่าสับสนว่าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จะออกจากสิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ด้านนายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ย้ำว่า สปสช. จะนำกฎเกณฑ์ที่ใช้กับหน่วยนอกระบบมาใช้กับหน่วยในระบบ จนทำให้โรงพยาบาลขาดคุณสมบัติ เพราะทางโรงพยาบาลไม่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยรับการส่งต่อเฉพาะด้าน แต่ต้องการช่วยเหลือคนไข้ที่มีจำนวนมากจากหลายโรงพยาบาลที่ถอนตัวออกไป อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลการทำหัตถการรักษาโรคหลอดเลือด และการผ่าตัดโรคหัวใจ ยิ่งมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากก็สร้างปัญหาขาดทุนให้กับโรงพยาบาลมากขึ้นเท่านั้น แต่ที่ต้องการช่วยคือคนป่วย ที่ต้องรักษาต่อเนื่อง ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองจะต้องจ่ายค่ารักษาในการสวนหัวใจ และการผ่าตัดหัวใจเอง หรือไม่เช่นนั้น จะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลรัฐอื่นๆ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการรอนาน และส่งผลเสียต่อผู้ป่วย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ระบุว่า โรงพยาบาลมีเครื่องมือทางการแพทย์ครบครันและมีแพทย์เฉพาะทางเพียงพอที่จะดูแลผู้ป่วยได้ตลอดเวลาไม่จำเป็นต้องมีแพทย์ประจำการในวัน และเวลาราชการ 1 คน ตามที่ สปสช. ตั้งเกณฑ์กำหนด เพราะรักษาโรคนี้มากว่า 20 ปีแล้ว โดยในช่วงเดือนตุลาคม -ธันวาคม 2560 มีคนไข้ที่นัดคิวรอผ่าตัดประมาณ 40-50 ราย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช.ได้เรียกประชุมด่วน เพื่อหาแนวทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ชัดเจน ไม่สร้างปัญหาความสับสนให้กับประชาชนด้วย