ทบ.เดินหน้าปลด-ถอดยศ “พล.ท.มนัส” ตามระเบียบทหาร หลังศาลพิพากษาสิ้นสุดคดีค้ามนุษย์โรฮีนญา ชี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลขอให้แยกแยะ ไม่เกี่ยวกองทัพ–ความเป็นเพื่อน
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์โรฮีนญา พิพากษาจำคุก พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เป็นไปตามขั้นตอนทางคดี กองทัพบกได้มีการสั่งพักราชการระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาลไปแล้ว ส่วนต้นสังกัดจะเสนอปลด งดเบี้ยหวัดบำนาญ และขอคืนยศทหาร หลังศาลพิพากษาคดีสิ้นสุดแล้วหรือไม่นั้น ต้องดูในรายละเอียด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย เมื่อกำลังพลถูกตัดสินหรือพิพากษาก็จะมีขั้นตอนระบุไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่ากรณีนี้เป็นนายทหารที่มีชั้นยศ พล.ท. และเป็นถึงอดีตผู้บังคับหน่วยถูกพิพากษาในคดีร้ายแรงจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพบกหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เชื่อว่าไม่กระทบกองทัพ เพราะต้องแยกแยะว่าเป็นเรื่องของบุคคล ซึ่งนายพลในกองทัพมีหลายนาย ถ้าจะมีใครสักคนที่ทำความผิด และเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต้องดำเนินการไปตามกรอบนั้น ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของกองทัพ เพราะคนในกองทัพมีเป็นจำนวนมาก ไม่อยากให้ตีความในลักษณะนั้น แม้จะเป็นเพื่อนเตรียมทหาร รุ่น 16 แต่ก็ไม่ได้คุยกันหรือสนิทกัน อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องเสียหายต่อภาพรวมกองทัพ หรือเพราะเป็นเรื่องของเพื่อน ขอให้มองว่าเขาคือกำลังพลของกองทัพคนหนึ่ง เมื่อทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
สำหรับคดีนี้ ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ ได้ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษา ตั้งแต่เวลา 08.40 น.-21.48 น. นานกว่า 13 ชั่วโมง เพราะคดีนี้มีจำเลยจำนวนมากถึง 103 คน และรายละเอียดคำพิพากษา มีความหนาถึง 550 หน้า โดยศาลได้อ่านพฤติการณ์ของจำเลยทุกคน รวมถึงความผิดของจำเลยแต่ละคนด้วย และมีการพักการพิจารณาคดีถึง 2 ครั้ง เพื่อให้จำเลยได้พักรับประทานอาหาร ก่อนจะสั่งจำคุก “พล.ท.มนัส” 27 ปี- “โกโต้ง” คุก 75 ปี ยกฟ้อง 40 ราย
คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย 103 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น 7 ราย เจ้าพนักงานปกครอง 2 ราย ข้าราชการตำรวจ 4 ราย ข้าราชการทหาร 2 ราย และพยาบาลวิชาชีพ 1 ราย ในความผิดพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยศาลได้ดำเนินกระบวนการพิจารณาผ่านล่ามภาษาโรฮีนญา เบงกาลี และภาษาเมียนมาร์ สำหรับจำเลยที่ไม่เข้าใจภาษาไทย
โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ของจำเลย ในกลุ่มที่มีความผิด สั่งลงโทษจำคุก จำเลย 62 ราย ในฐานความผิดต่างกัน อาทิ เป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สมคบและร่วมกันค้ามนุษย์, นำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร, รับและให้ที่พักแก่คนต่างด้าว, ความผิดต่อเสรีภาพและเรียกค่าไถ่ เป็นต้น ซึ่งจำเลย สำคัญของคดีนี้ และเป็นที่สนใจของสังคม คือ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนแยกที่ 1 จ.ระนอง จำเลยที่ 54 ศาลสั่งจำคุก รวม 27 ปี
ส่วน นายปัจจุบัน หรือโกโต้ง อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบจ. สตูล จำเลยที่ 29 ศาลสั่งจำคุกรวม 75 ปี และ นายบรรจง หรือ จง ปองผล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ ศาลสั่งจำคุก 78 ปี แต่ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.91(3) กำหนดโทษให้ลงโทษจำคุกจำเลย มีกำหนด 50 ปี
นอกจากนี้ ศาลสั่งยกฟ้อง จำเลย 40 คน แต่ให้ขังจำเลยไว้ 28 ราย ระหว่างอุทธรณ์ และศาลสั่งให้จำเลยที่วินิจฉัยว่า มีความผิดฐานค้ามนุษย์ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายชาวโรฮีญจา 58 ราย รวม กว่า 4.4 ล้านบาท