หลังจากภาคเหนือและภาคอีสานเข้าสู่ในช่วงหน้าแล้งทำให้เกิดไฟป่าหลายพื้นที่ เช่นที่จังหวัดตาก ทางราชการออกมาตรการห้ามเผา 60 วัน แต่ก็สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ 2 คนใน อ.พบพระ และ อ.แม่สอด ส่วนที่ จ.นครราชสีมา เกิดไฟป่าบนยอดเขาที่ อ.ครบุรี แม้จะมีเจ้าหน้าที่พยายามดับเพลิงแต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก
สภาพไฟป่าที่ลุกไหม้ตั้งแต่ยอดเขาบ้านหนองโบสถ์ เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ลุกลามมายังตีนเขายาวหลายกิโลเมตรสว่างจ้าทั่วพื้นที่และมีควันพวยพุ่งออกมาเต็มท้องฟ้า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมไฟป่าและกลุ่มจิตอาสา พยายามนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟนานหลายชั่วโมง แต่สภาพอากาศและภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งเป็นเวลากลางคืน ทำให้ต้องชะลอการเข้าระงับเพลิงไว้ก่อนเพื่อป้องกันอันตราย
นายกนก แก้วเทศ ปลัดอำเภอครบุรี เปิดเผยว่า ได้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ประจำการที่จุดเสี่ยงบริเวณที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต.บ้านหนองโบสถ์ วัดบ้านหนองโบสถ์ ต.โคกกระชาย และสำนักสงฆ์ภูกิ่งฟ้า ต.บ้านใหม่ เพื่อเฝ้าระวังไฟป่าไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง คาดว่าไฟป่าที่เกิดขึ้นเสียหายไม่ต่ำกว่าร้อยไร่ ส่วนสาเหตุยังอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบต่อไป และในวันนี้ นายสุพจน์ แสนมี นายอำเภอครบุรี เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเองซึ่งจนถึงตอนนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้
รวบ 2 ชาวบ้าน จ.ตาก ฝ่าฝืนห้ามเผา 60 วัน
ส่วนที่จังหวัดตาก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมามีเหตุชาวบ้านฝ่าฝืนมาตรการห้ามเผาป่า 60 วันของจังหวัดถึง 2 แห่ง จุดแรกเป็นการเผาไร่อ้อยในพื้นที่ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองนำรถน้ำเข้าฉีดสกัดไฟ และได้คุมตัว นายนรินทร์ เจ้าของไร่อ้อยอายุ 31 ปี โดยแจ้งข้อหาจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ต่าง ๆ และฝ่าฝืนมาตรการห้ามเผา 60 วัน เพื่อป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.พบพระ ดำเนินคดีต่อไป
อีกจุดหนึ่งเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อ.แม่สอด นำกำลังตำรวจ , อส. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ต.แม่ตาว ออกลาดตระเวนตรวจตราป้องกันเหตุไฟป่าในพื้นที่และพบ นายโก่ละหม่อง ไม่ทราบนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 56 ปี กำลังเผาหญ้าแห้งภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ดำเนินคดีต่อไป