ชาวบ้านใน อ.เมืองพิษณุโลก ที่ชื่นชอบทอดแหกว่า 1 พันคน แห่เข้าแข่งขันทอดแหที่บึงตามา กว้างขวางกว่า 50 ไร่ โดยเจอน้ำหนักปลาขนาดยักษ์กว่า 7 กิโลกรัม
วันที่ 21 ก.พ.60 ว่าที่ ร.ต.อิทธิพล บุบผะศิริ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย ร.อ.สุชาติ จันทร์ลอย หัวหน้าชุดมวลชน ม.พัน 9 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ และ นางกชพร โฆษิตคณิน ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 บ.มะขามสูง ร่วมกันเปิดการแข่งขันทอดแหจับปลาภายในบึงตามา ม.4 ต.มะขามสูง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นบึงสาธารณะเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ที่กรมประมงได้มาขุดไว้เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน และนำพันธุ์ปลาต่าง ๆ มาปล่อยไว้ตามธรรมชาติ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อถึงเวลาปลาโตเต็มวัยก็จะเปิดให้สามารถจับปลาได้
สำหรับวันนี้มีผู้ที่ชื่นชอบทอดแหจับปลาจากทั่วทุกสารทิศ จำนวนกว่า 1,000 คน แห่เข้าร่วมแข่งขันกันอย่างคึกคัก และซื้อบัตรแข่งขันคนละ 300 บาท ส่วนผู้ที่แข่งขันนั้นก็จะไปยืนบนหลักทุนโฟมลอยน้ำที่จัดไว้ให้จำนวน 1,080 หลัก พร้อมกับแหคู่ใจที่ต้องนำมาเอง เมื่อเสียงประกาศเริ่มการแข่งขันจากกรรมการดังขึ้น ทุกคนต่างโชว์ลีลาทอดแหตามสไตล์ของตัวเอง และมีปลามาติดแหขึ้นมาหลากหลายชนิดด้วยกัน อาทิ ปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลากระโห้ แต่ที่หายากและเป็นที่ต้องการของพ่อค้า แม่ค้า ที่มายืนรอรับซื้อก็ คือ ปลากาดำ เพราะมีรสชาติอร่อยนำไปปรุงอาหารได้หลายอย่าง เช่น ต้มยำ หรือ ลาบปลากาดำ เป็นต้น เมื่อได้ปลาแล้วก็จะนำมาวางบนเครื่องชั่งกิโล เพื่อวัดขนาดน้ำหนักของปลา น้ำหนักมากที่สุดอยู่ที่ตัวละ 7 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ผู้ที่ทอดแหหาได้ปลาขนาดใหญ่ที่สุด เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ส่วนรางวัลที่ 2 จำนวน 500 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 300 บาท ซึ่งเป็นรางวัลปลอบใจเล็ก ๆ น้อย ๆ สร้างสีสันให้กับการแข่งขัน และเมื่อจบการแข่งขันก็จะปิดบึงพักฟื้นพันธุ์ปลาเป็นเวลา 2 ปี พร้อมปล่อยพันธุ์ปลาให้โตเต็มวัยอีกครั้ง
ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่มาเฝ้ารอซื้อปลาสด ๆ ก็จะมีราคากลางอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ถือว่าขายกันราคาถูกกว่าท้องตลาด ส่วนเงินที่ได้จากการแข่งขันในครั้งนี้ ทางหมู่บ้านก็จะนำเงินไปพัฒนาสาธารณะประโยชน์ด้านต่าง ๆ อีกทั้งการจัดการแข่งขันทอดแหจับปลาครั้งนี้ ยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในหมู่บ้านและพื้นที่ข้างเคียงสร้างความสนุกสนานสามัคคีร่วมกันอีกด้วย