ติดแล้วไปไหนต่อ? อัปเดตล่าสุด แนวทางการปฎิบัติหลังพบว่า ตรวจATKขึ้น 2ขีด ติดโควิด ต้องติดต่อใคร เบอร์ไหน สรุปรวมแล้วที่นี่!
สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ยังน่ากังวลอยู่ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำนนผู้เสียชีวิตต่อวัน ที่ขณะนี้เกินกว่าครึ่งร้อยต่อวัน อย่างเช่นวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,037 ราย หากยังไม่ร่วมผู้เข้าข่ายติดเชื้อ / ATK อีก 31,890 นับรวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 มกราคม 2565 จำนวนผู้ป่วยสะสม 865,438 ราย ในส่วนของผู้เสียชีวิตวันนี้ 69 ราย
แน่นอนว่าขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื้อที่ระบาดอยู่ในตอนนี้คือ โอมิครอน ที่ติดได้ง่ายกว่าเชื้อตัวอื่นๆที่ผ่านมา แต่พื้นที่ในการรักษาผู้ป่วนติดเชื้อนั้นไม่สามารถรองรับผู้ป่วยใหม่ในหลักหมื่นรายต่อวันได้ ทำให้ต้องใช้ระบบการรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว
เชื่อว่าต้องมีคำถามตามมาว่า ติดโควิด แล้วต่อทำอย่างไรต่อ โทรหาใคร อยากรักษาตัวที่บ้านทำไงดี ใครจะส่งยามาให้ หลายคำถามที่เกิดขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ วันนี้เรามีข้อมูลอัพเดทล่าสุด มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับแนวปฏิบัติของประชาชนเมื่อสงสัยว่าติดโควิด-19 ต้องทำอย่างไร ?
1.ผู้สงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ตรวจ ATK ด้วยตนเองแล้วพบว่าขึ้น 2 ขีด ผลเป็นบวก ติดเชื้อโควิด-19 (ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ไม่ต้องให้ตรวจยืนยันซ้ำด้วย RT-PCR) ดำเนินการต่ออย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
- โทรศัพท์
- ต่างจังหวัด สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือสายด่วนเกี่ยวกับโควิด-19 ประจำอำเภอหรือจังหวัด (ดูรายละเอียดที่เฟสบุ๊กหรือเว็บไซต์สำนักงานสาธารณสุขแต่ละจังหวัด
- กทม. โทร.เบอร์สายด่วนของแต่ละเขต (เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์หรือเฟสบุ๊ก กรุงเทพมหานคร: https://bit.ly/3FBOgvw ) หรือเพิ่มเพื่อนทาง Line @BKKCOVID19CONNECT หรือคลิก https://bit.ly/3Iuw7Si***
- ทั้ง กทม.และต่างจังหวัด หากไม่สะดวก โทร.สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 (ส่งให้สถานพยาบาลคัดกรองเบื้องต้น)
- ไปโรงพยาบาลตามสิทธิของท่าน
- สิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) รักษาทุกที่ตามนโยบายยกระดับบัตรทอง สามารถเข้ารับบริการในระบบบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ โดยที่หน่วยบริการจะไม่มีการเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัวมาเหมือนในอดีต
- ตัวอย่างหน่วยบริการปฐมภูมิ เช่น สถานีอนามัย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.), หน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาล, ศูนย์สุขภาพชุมชน ศูนย์บริการสาธารณสุข รวมถึง คลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น
- สิทธิประกันสังคม ไปโรงพยาบาลตามสิทธิของท่านหรือโรงพยาบาลที่ท่านลงทะเบียนเลือกไว้
- สิทธิข้าราชการ ไปโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลภาครัฐ
- สิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) รักษาทุกที่ตามนโยบายยกระดับบัตรทอง สามารถเข้ารับบริการในระบบบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ โดยที่หน่วยบริการจะไม่มีการเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัวมาเหมือนในอดีต
หากพบว่าไม่มีภาวะเสี่ยง ??? จะเข้าสู่ระบบการรักษาตามแนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 คือ รักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านตามแนวทาง “เจอ-แจก-จบ” จะได้รับการจับคู่กับสถานพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก ด้วยระบบ tele-health ดังนี้
- แยกกักตัวที่บ้าน 7-10 วัน• จ่ายยาตามอาการ
- โทรติดตามอาการ (ครั้งเดียว 48 ชั่วโมง)
- ระบบส่งต่อเมื่ออาการแย่ลง
- ไม่ได้รับอาหาร ไม่ได้รับอุปกรณ์ประเมิน เช่น เครื่องวัดไข้และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
แนวทาง “เจอ แจก จบ” คือ ??? หลังจากผู้ที่สงสัยป่วยโควิด-19 ตรวจ ATK แล้วหากพบผลเป็นบวก (เจอ) แพทย์จะพิจารณาจ่ายยารักษาตามอาการ 3 สูตร (แจก) ได้แก่ 1.ยาฟ้าทะลายโจร 2.ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ แก้ไอ ลดน้ำมูก 3.ยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ติดเชื้อในการเข้าถึงบริการ และเป็นการเชื่อมโยงเข้าสู่การเป็นโรคที่ดูแลได้ด้วยตนเอง (จบ)
สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 สิทธิบัตรทอง ที่ได้รับการประเมินว่าไม่มีอาการแต่ยืนยันว่าต้องการเข้าระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ตัดสินใจร่วมกับสถานพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) และได้รับการดูแลตามระบบได้เช่นเดียวกัน
ประเมินอาการแล้วพบว่ามีภาวะเสี่ยง แบ่งอาการเป็น 3 กรณีดังนี้
1.ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/ไม่มีโรคร่วมสำคัญ
จับคู่กับสถานพยาบาลเพื่อเข้าระบบรักษาที่บ้าน (Home Isolation) กรณีสภาพบ้านไม่พร้อมเข้าระบบการรักษาโดยชุมชนหรือศูนย์พักคอย (Community Isolation) ได้รับการดูแลแบบ tele-health แพทย์จะพิจารณาว่าจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์หรือไม่ หากกำลังใช้ฟ้าทะลายโจรจะต้องหยุดฟ้าทะลายโจรก่อน มีระบบส่งต่อเมื่ออาการแย่ลง (โทร.ติดตามอาการ, เครื่องวัดไข้และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว, ส่งอาหารถึงบ้าน)
2.ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือผู้ป่วยที่มีปอดอักเสบ และ
3.ผู้ป่วยที่มีโรครุนแรงมาก
** สองกลุ่มนี้แพทย์จะพิจารณารับการรักษาในโรงพยาบาล และพิจารณาให้ยารักษาที่มียาชนิดตามความเหมาะสม **
2.กรณีตรวจ ATK แล้วผลตรวจเป็นลบ ขึ้น 1 ขีด
- ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT/Self Quarantine การแยกเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย
- ตรวจ ATK ซ้ำเมื่อครบ 7 วันหรือเมื่อมีอาการ หากผลเป็นบวก ดำเนินการตามข้อ 1 หากผลเป็นลบ Self Quarantine อีก 3 วัน และ DMHTT
- *** DMHTT คือแนวทางปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ใช้ในการชะลอการระบาดของ โควิด-19 คือ อยู่ห่างไว้, ใส่มาก์สกัน, หมั่นล้างมือ, ตรวจให้ไว, ใช้ไทยชนะ และหมอชนะ
3.ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายเดิม ก่อน 1 มี.ค.65 ที่ลงทะเบียนเข้าระบบการรักษาที่บ้าน แต่ยังไม่ได้รับการจับคู่กับสถานพยาบาล
- กรณีไม่มีอาการ-อาการเล็กน้อย ดำเนินการตามข้อ ข. คือ ไปที่โรงพยาบาลตามสิทธิเพื่อรับบริการตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข “เจอ-แจก-จบ”
- กรณีมีอาการ เข้ารักษาตามระบบ Home Isolation
- กรณีมีอาการรุนแรง ส่งต่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

ขอบคุณข้อมูล – สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ