นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 กรมชลประทาน
ติดตามผลจากมาตรการในการช่วยเหลือการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ขาดแคลนน้ำดิบ เนื่องจากมีฝนตกน้อยกว่าค่าปกติในพื้นที่ตอนบน ทำให้ระดับน้ำในคลองท่าลาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับผลิตประปา อยู่ในระดับต่ำมากจนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำเป็นอย่างมาก กรมชลประทานได้ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำระบม ในอัตราวันละประมาณ 71,000 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. 62 และเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนคลองสียัด ลงสู่คลองสียัดในอัตราวันละ 1,000,000 ลบ.ม.
ตั้งแต่วันที่ 3 – 5 ส.ค. 62 เพื่อเร่งส่งน้ำให้ถึงจุดสูบน้ำของการประปาพนมสารคาม พร้อมกับได้เพิ่มมาตรการให้น้ำไหลลงสู่บริเวณจุดสูบน้ำให้เร็วที่สุด ด้วยการทยอยระบายน้ำตามหน้าประตูระบายน้ำต่างๆในคลองสียัดลงมาให้ได้เร็วที่สุด รวมทั้งการปิดบานประตูระบายน้ำคลองท่าลาดสายใหญ่เพื่อให้ระดับน้ำเหนือฝายท่าลาดสูงขึ้นและสามารถล้นลงท้ายฝายได้
จากมาตราการดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันน้ำไหลถึงบริเวณฝายท่าลาดแล้ว มีปริมาณน้ำไหลข้ามฝายเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเช้าวันนี้(4 ส.ค. 62) วัดปริมาณน้ำที่ไหลข้ามฝายท่าลาด ได้ประมาณ 5,625 ลบ.ม./ชั่วโมง หรือ 135,000 ลบ.ม./วัน ซึ่งเป็นปริมาณน้ำดิบที่. เพียงพอที่จะนำไปผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพนมสารคามได้อย่างเต็มกำลัง
ส่วนปริมาณน้ำที่ระบายลงมาจากอ่างเก็บน้ำคลองสียัด คาดว่าจะเดินทางมาถึงบริเวณฝายท่าลาดในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้(5 ส.ค. 62) ซึ่งจะช่วยเสริมปริมาณน้ำบริเวณหน้าฝายท่าลาดให้อยู่ในภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นอีก เนื่องจากยังคงมีแนวโน้มที่ฝนจะตกน้อยกว่าปกติ จึงขอให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมใจกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดด้วย เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอใช้ยาวนานไปจนถึงฤดูแล้งหน้านี้
