พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แห่งวัดสร้อยทอง ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับกรณีสำนักงานเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ส่งหนังสือถึงเจ้าอาวาสวัดไทร โดยระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้รับความเดือดร้อน กรณีที่ทางวัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา 03.30 น. – 04.00 น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบนคอนโดที่อยู่ติดวัด
โดยระบุว่า ยุคสมัยเปลี่ยน บริบทเปลี่ยน อะไรหลายอย่างมันก็เปลี่ยนไปด้วยนะ คุณค่าทางวัฒนธรรมบางเรื่องมันก็ไปด้วยกันไม่ได้ อย่างเรื่องการตีระฆังนี่ก็เหมือนกัน ถ้าเป็นในชนบท เรื่องนี้จะไม่มีปัญหาอะไรเลย พระบ้านนอกบางวัด ตีสี่ตีห้า ต้องตื่นมาตีระฆังนะ เพื่อเผดียงสงฆ์ทำวัตรสวดมนต์ แล้วชาวบ้านเขาก็ไม่เดือดร้อน เพราะคนโบราณสมัยก่อนตีห้าเขาก็ลุกขึ้นมาหูงข้าวแล้ว พระตีระฆังก็ได้ประโยชน์ด้วย ถือเป็นการปลุก บางที่คนก็ชอบนะ เสียงกลองเสียงระฆัง เวลาเขาได้ยิน เขาก็ถือว่าเป็นบุญที่จะได้อนุโมทนา เพราะเป็นสัญญาณว่า พระเณรทำวัตรสวดมนต์แล้ว
แต่ในสังคมเมือง คนกับพระห่างกันมาก วัดกับตึกห่างกันมาก มันก็เลยไม่มีสำนึกในเรื่องของการถ้อยทีถ้อยอาศัย วิถีชีวิตผู้คนก็เปลี่ยนไป คนหลากหลายศาสนา น่าเห็นใจอยู่ บางคนทำงานมาก็อยากจะนอนให้เต็มที่ แต่ที่จริงมันอนุเคราะห์กันได้นะ หาทางออกร่วมกันได้ ดูที่ความจำเป็นมากน้อยของการต้องตีระฆังและผลกระทบที่จำนวนผู้คนในคอนโดได้รับ ตอนโรงเรียนโยธินบูรณะกับคอนโดทหารย้ายมาใหม่ใหม่ พระเณรที่วัดอาตมาก็ต้องใช้ขันติคุณทั้งนั้น ทั้งฝุ่น ทั้งเสียงตอกเสาเข็มทั้งกลางคืนกลางวัน หาความสงบไม่ได้เลย