เพื่อนบ้านครอบครองปรปักษ์ ผูกคอปลิดชีวิตตัวเอง คาดเครียดหนัก “อากู๋” รู้ข่าวถึงกับช็อค ลั่น เสียใจกับการเสียชีวิต และขออโหสิกรรม
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 จากรายงานข่าวสุดสลด เพื่อนบ้านบุกครอบครองปรปักษ์ ตัดสินใจผูกคอลาโลก ตามรายงานระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. 1 ในผู้ต้องหา ขบวนการเพื่อนบ้านบุกรุกครอบครองปรปักษ์ ได้ตัดสินใจลาโลก ด้วยการผูกคออยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบรายละเอียด เบื้องต้น พบผู้ตายเป็นเพศหญิง อายุ 51 ปี คาดเกิดจากความเครียด
โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก กรณีพิพาทที่เป็นกระแสโด่งดัง จนสังคมจับตามอง และให้ความสนใจเป็นอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเพื่อนบ้านเข้ามาบุกรุก บ้านอากู๋ เข้ามาใช้ประโยชน์ในช่วงที่เจ้าของบ้านไม่ได้พักอาศัยแล้ว ก่อนที่จะยื่นครอบครองปรปักษ์ ในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 จนกลายเป็นคดีความ มีการฟ้องร้องและถูกสังคมวิพากวิจารณ์อย่างหนัก ก่อนที่เจ้าของบ้านตัวจริงจะพาเจ้าหน้าที่บุกยึดคืน
- หนุ่มโหด ขับรถลากแฟนไปตามถนน กระโหลกร้าว ปล่อยทิ้งไม่ส่ง รพ.
- ทนายฉาว ขอมีเซ็กซ์กับลูกความ แลกว่าความให้ฟรี ซ้ำให้หาลูกค้าอีก
- ด่วน! เพื่อนบ้านบุกครอบครองปรปักษ์ ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองแล้ว
ล่าสุด ทนายเดชา ทนายความที่คอยช่วยเหลือฝั่งของ อากู๋ หลังจากมีรายงานข่าวเรื่องการเสียชีวิตของ 1 ใน ผู้ต้องหา ก็ได้มีการแจ้งข่าวให้อากู๋รับมราบ โดยทางด้านทนายเดชา เปิดเผยว่า “ผมได้แจ้งให้อากู๋ทราบแล้วอากู๋ถึงกับช็อคและขอแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิต ของผู้บุกรุก และขออโหสิกรรม” ผมกำลังตรวจสอบนะครับว่าผู้ที่ผูกคอตายตามข่าวเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกหรือไม่
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้การบุกยึกคืนในครั้งที่แล้ว ทนายกุ้ง เปิดเผยว่า จากนี้หากพบมีบุคคลใดบุกรุกเข้ามาอีก จะสามารถเอาผิดได้ทันที ซึ่งย้อนไปเมื่อวันที่ (17 ก.ย. 66) มีการส่งมอบบ้านคืนให้เจ้าของตัวจริงไปแล้ว เมื่อมาตรวจสอบภายในบ้านก็ไม่พบสิ่งของใดๆ แต่ปรากฏว่าวันนี้พบที่นอน เก้าอี้โซฟา และหม้อหุงข้าว ที่นำมาใช้สร้างหลักฐานแอบอ้างว่าเป็นการพักอาศัยอยู่ ซึ่งการครอบครองปรปักษ์นั้น ต้องมีหลักฐานและเจตนาการเข้าพักอาศัยอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปี จึงมั่นใจหลักฐานของฝ่ายเจ้าของตัวจริง ได้แก่แผนที่บ้านที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ และหลักฐานสำคัญที่แสดงการเป็นเจ้าของบ้าน
