ม.122 — เมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 ผู้เชี่ยวชาญพิเศษจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงการใช้กฎหมายมาตรา112 ในไทยที่มีการใช้กฎหมายอย่างรุนแรง และต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเพื่อปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์
คำแถลงการณ์จากผู้เชี่ยวชาญพิเศษจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมีขึ้น หลังที่ศาลของไทยได้ตัดสินจำคุกนางอัญชัญ ปรีเลิศ วัย 60 ปี อดีตข้าราชการกรมสรรพากรเป็นเวลาถึง 43 ปี ฐานโพสต์หมิ่นพระมหากษัตริย์บนเฟสบุ๊ก ระหว่างปี 2014 ถึง 2015
ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติเริ่มให้ความสำคัญกับคดีของนางอัญชัญ เมื่อปี 2016 เนื่องจากเธอได้ถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร และถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 87 ปี ก่อนที่ศาลจะลดโทษของเธอให้เหลือครึ่งหนึ่ง หลังจากที่เธอยอมรับสารภาพข้อกล่าวหาในช่วงที่คดีของเธอนำเข้าพิจารณาในศาลพลเรือน เมื่อช่วงกลางปี 2019
ภายในแถลงการณ์ของผู้เชี่ยวชาญพิเศษสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ศาลไทยพิจารณา โดยคำนึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษย์ และยุติการดำเนินคดีด้วยบทลงโทษที่รุนแรง พร้อมกับบอกว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชนุภาพไม่ควรมีในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย การใช้กฎหมายมาตรา112 อย่างต่อเนื่องได้ส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และพื้นฐานด้านเสรีภาพในไทย และยังแสดงความเป็นห่วงที่จำนวนผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา112 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสหประชาชาติยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวน และยกเลิกการใช้มาตรา 112 ยกเลิกการตั้งข้อหากับผู้ที่กำลังถูกดำเนินคดีมาตรา 112 พร้อมกับให้ปล่อยตัวผู้ ที่ถูกคุมขังจากความผิดจากการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี และชุมนุมอย่างสันติ