‘ชาญกฤช’ สวนกลับ ‘เพื่อไทย’ คลอดนโยบายกระตุ้นให้เป็นหนี้ ต้นเหตุคนไทยจนเพิ่ม

‘ชาญกฤช เดชวิทักษ์’ ตอกกลับ ‘เพื่อไทย’ ชี้รัฐบาลในอดีตออกนโยบายกระตุ้นให้เป็นหนี้ ต้นเหตุคนไทยจนเพิ่ม ชี้รัฐบาลนี้มาปัดกวาดบ้าน สร้างความเข้มแข็งระยะยาว

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงกรณีธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ เผยแพร่รายงานว่า ความยากจนและแนวโน้มความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยระหว่างปี 2558-2561 มีอัตราความยากจนของประเทศเพิ่มขึ้น เป็นมากกว่า 6,700,000 คน และมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำ รายได้ครัวเรือนลดลง ว่า จริงอยู่ในช่วงปี 2558 เป็นต้นมา ประเทศไทยอยู่ภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่อยากขอความเป็นธรรมให้รัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งพึ่งเริ่มเข้ามาแก้ไขปัญหาที่รุมเร้าหลายประการ โดยเฉพาะวิกฤติความแตกแยกทางการเมือง ปัญหาอภิมหาคอร์รัปชั่นครั้งประวัติศาสตร์ และปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งในขณะที่เกิดวิกฤตความแตกแยกทางการเมือง GDP ของประเทศไทยเติบโตเพียง 1% เท่านั้น

นายชาญกฤช กล่าวว่า สำหรับปัญหาทางเศรษฐกิจที่สั่งสมและพอกพูนเรื่อยมาจากรัฐบาลชุดก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้ามาบริหารประเทศนั้น นักวิชาการจากหลายสำนักและพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่คงยังจำกันได้ ถึงบรรยากาศที่อบอวลของการกระตุ้นให้เกิดการก่อหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ และพฤติกรรมบริโภคนิยมของรัฐบาลในอดีต ผ่านโครงการเงินกู้ประเภทต่างๆ รวมถึงโครงการประชานิยม “รถยนต์คันแรก” ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยรวบรวมข้อมูลหนี้ภาคครัวเรือนขยายตัวขึ้นเร็วมากในปี 2553–2556 เฉลี่ยปีละกว่า 1 ล้านล้านบาท คนไทยอยู่ในภาวะง่อยเปลี้ย กำลังซื้อมหาศาลที่หายไปจากการเป็นหนี้ นำไปสู่วงจรอุบาทว์ เป็นปัญหาต่อครอบครัว และฉุดรั้งเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศในระยะยาว

นายชาญกฤช กล่าวว่า รัฐบาลผ่านทางกระทรวงการคลัง เล็งเห็นถึงความท้าทายและต้องการที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) เพราะประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมประชากรสูงวัย (Aging Society) แบบสมบูรณ์ในปี 2564 จึงเป็นที่มาของการยกระดับประเทศไทยและอุตสาหกรรมการผลิตไทยสู่ยุค 4.0 โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ประเทศไทยและภาคเอกชนสามารถแข่งขันได้ทั้งในเวทีระดับภูมิภาคและในเวทีโลก สำหรับพี่น้องผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งมียอดขายสินค้าที่คิดเป็นมูลค่าราว 40% ของ GDP มีการจ้างงานถึง 14 ล้านคน คิดเป็น 80-85% ของการจ้างงานในประเทศทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งการให้ยกระดับการดูแลผู้ประกอบการ SMEs เป็นวาระแห่งชาติ

นายชาญกฤช กล่าวด้วยว่า นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้สั่งการให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขยายเวลาค้ำประกันเเละปรับเงื่อนไขให้สถาบันการเงินปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ SMEs เพื่อให้ทำธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงได้สั่งการให้ บสย. ประสานความร่วมมือไปยังธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาล อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมวงเงินสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ สำหรับการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและการเสริมสภาพคล่อง นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการประชารัฐสร้างไทยออกมารองรับพี่น้องเกษตรกรและพี่น้องผู้มีรายได้น้อย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แต่ละชุมชนทั่วทั้งประเทศ โดยรัฐบาลได้นำร่องพัฒนาความรู้และทักษะเชิงนวัตกรรมในการประกอบอาชีพ ส่งเสริมให้เข้าถึงเทคโนโลยีการเพาะปลูก-เก็บเกี่ยวเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ยกระดับสู่เกษตรแปรรูป ส่งเสริมให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึงการสร้างช่องทางการกระจายสินค้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างตรงจุดและอย่างยั่งยืน

“รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเร่งสะสางปัญหาของประเทศที่ถูกสั่งสมมานาน อีกทั้งประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งประทุขึ้นมาตั้งแต่ปี 2561 รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้ง พรบ.งบประมาณที่ล่าช้า และล่าสุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ชุดมาตรการต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่มรายได้ ซึ่งท่านอุตตม จะออกชุดมาตรการใหม่ๆ เป็นระยะๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ ไม่ให้เกิดวิกฤต และในเวลาเดียวกัน ก็จะมุ่งพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนและการสร้างความเข้มแข็งผ่านชุมชนทั่วทั้งประเทศ” นายชาญกฤชสรุป

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ปารีณา ซึ้งใจ! ปรี่คุกเข่าก้มกราบ ‘บิ๊กป้อม’ มาร่วมงานศพพ่อ

ปารีณา คุกเข่าก้มกราบ ‘บิ๊กป้อม’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ้งใจ ให้เกียรติมาร่วม งานศพพ่อทวี ด้าน ‘ชวน – หญิงหน่อย’ เดินทางร่วมไว้อาลัยด้วย

เอส กันตพงศ์ อัปเดตชีวิตครั้งแรก! เผย ความทรงจำในอดีต กลับมาไม่เต็มร้อย

เอส กันตพงศ์ อัปเดตชีวิตครั้งแรก ผ่านรายการ เที่ยงบันเทิงสด ครั้งแรก หลังผ่านมรสุมจากอาการป่วยโคม่า เผย ความทรงจำในอดีตกลับมาแค่ 20 %

ที่แท้! วงจรปิดจับภาพ ลูกน้อง ‘บิ๊กโจ๊ก’ ปลดป้าย-ขนของออกจากสำนักงาน

นึกว่าใครทำ! ลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” เองที่ปลดป้าย พร้อมกับขนของ ออกจากสำนักงาน หลังถูกนายกรัฐมนตรี เซ็นออกจากราชการ พ้นตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.

สิ่งที่ต้องรู้! หากนำ ‘แรงงานต่างด้าว’ เข้ามาทำงานในประเทศ

สิ่งที่ HR ควรรู้ก่อนนำ แรงงานต่างด้าว เข้ามาทำงานในประเทศไทย ต้องหายังไง และต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง จึงจะถูกกฎหมาย

ไม่ยอม! Source Music ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดในนาม LE SSERAFIM

ต้นสังกัด Source Music เตรียมดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดในนามของเกิร์ลกรุ๊ป LE SSERAFIM ที่ถูกข้อความเท็จโจมตีจาก “มินฮีจิน”

“ขนมจีน” ซิงเกิลใหม่ ‘ทำใจเก่ง’ ที่จะส่งความเห็นใจให้ มือที่สาม

“ขนมจีน” ส่งซิงเกิลใหม่ ‘ทำใจเก่ง’ ได้ “เติร์ด Tilly Birds” และ “bnz” โปรดิวซ์ส่งความเห็นใจ ‘มือที่สาม’ พร้อมได้ “มิว ศุภศิษฐ์” ร่วมแสดง MV
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า