แฉกลลวง หลอกโหวตประกวดร้องเพลง ! แฮกเกอร์จบป.6หลอกนักเจ้าของร้านอาหารดัง ช่วยกดโหวตให้หลานที่เข้าประกวดร้องเพลง ล้วงรหัสโซเชียลมีเดีย ใช้หลอกยืมเงินคนรู้จัก สูญไปกว่า 400,000 บาท
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการข่าวกรองยาเสพติด ในฐานะหัวหน้าชุดประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) แถลงจับแฮกเกอร์หลอกลวงให้โหวตภาพเด็ก แล้วแฮกไลน์ผู้เสียหายมาหลอกยืมเงินเพื่อนในกลุ่มไลน์ มีผู้หลงเชื่อได้รับความเสียหายหลายราย
ผู้ก่อเหตุคือ นายสมพร สิงห์ม่วง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่จ.259/2563 ข้อหาข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม จับได้พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 17/5 หมู่บ้านทรัพย์ศิริ หมู่ 8 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เผยว่า ห้วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาสถิติการแฮกเฟซบุ๊กและไลน์ เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ สำหรับคดีนี้ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายว่าได้มีคนร้ายแฮกไลน์ของผู้เสียหาย หลอกให้กดลิ้งก์โหวตหลาน ซึ่งหลอกให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัวและรหัสไลน์ของตัวเอง จากนั้นใช้ไลน์ของผู้เสียหายไปหลอกลวงให้บุคคลอื่นโอนเงินให้กับคนร้ายทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท ขณะจับกุมตำรวจได้ทำการตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน ให้การว่าได้ซื้อมาในราคา 40,000 บาท ไม่มีในอนุญาต นายสมพร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า นำเงินที่หลอกลวงได้มาใช้จ่ายและเล่นการพนัน โดยทำเพียงคนเดียว ใช้บัญชีของเครือญาติ 4-5 บัญชี เพื่อรับโอนเงิน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น แต่มีความรักชอบศึกษาเรื่องไอที จึงมีความรู้ด้านนี้เป็นพิเศษ เคยมีอาชีพเป็นผู้ค้าตามตลาดนัด แต่ปัจจุบันไม่มีอาชีพชัดเจนอย่างไรก็ตามนายสมพรเคยถูกจับกุมในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ก่อนจะประกันตัวออกมาก่อเหตุดังกล่าวอีก
นางสาวสุชีรา ท้าวคำหลง เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีไลน์ส่งเข้ามาจากแม่เพื่อนให้ช่วยกดโหวตให้หลานที่เข้าประกวดร้องเพลง โดยข้อความดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ จากนั้นให้เรากดโหวตผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก ซึ่งจะต้องกรอกชื่อผู้ใช้-และรหัสผ่านเฟซบุ๊ก แต่ตนใช้รหัสผ่านเฟซบุ๊กกับไลน์คนละรหัสกัน จากนั้นผ่านไปไม่นานไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนๆ ก็ทักมาบอกว่า ตนส่งบาร์โค้ดให้ช่วยสแกนจ่ายเงินให้ โดยคนที่ปลอมเป็นตนอ้างว่าบัตรเต็มให้ช่วยโอนเงินให้ โดยให้สแกนเข้าร้านค้า เพื่อนๆ มีการโอนเงินไป 4 ครั้ง สูญเงินกว่า 400,000 บาท จึงอยากฝากเตือนว่าหากมีการให้กดลิ้งก์โหวตให้ คิดให้ดีก่อนที่จะกดเข้าลิ้งก์ไป