กรณี โควิด19 ส่งผลต่อการ ฝากเงิน นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ทำให้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และมีการออมเงินเพื่อสำรองการใช้จ่ายในอนาคต เพราะกังวลในภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับความผันผวนในตลาดการเงิน ตลาดทุน ทำให้ผลตอบแทนลดลง ดังนั้นนักลงทุนจึงโยกย้ายเงินลงทุนมาเข้าเงินฝากมากขึ้น เพื่อความปลอดภัย
ผลวิจัยพบ คนไทยกว่า 12 ล้านคน มี บัญชีเงินฝาก ไม่ถึง 500 บาท
ทั้งนี้ ส่งผลให้ครึ่งปี 2563 ระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย. ประเทศไทยมีจำนวนผู้ฝากในระบบสถาบันการเงินภายใต้ความคุ้มครองของ สคฝ. รวม 80.82 ล้านราย โดยเพิ่มขึ้น 1.38 % หรือประมาณ 1.1 ล้านราย ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองทั้งสิ้น 14.67 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.12% เมื่อเทียบกับข้อมูล ณ สิ้นปี 2562 และยังสูงสุดในรอบ 12 ปี ตั้งแต่มีการจัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝากเมื่อปี 2551 โดยกว่า 98% เป็นผู้ฝากรายย่อย มีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันปริมาณเงินฝากมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ฝากเกือบทุกกลุ่ม โดยเฉพาะปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นสูงสุดในกลุ่มผู้ฝากบุคคลธรรมดา และผู้ฝากภาคธุรกิจ องค์กรภาครัฐ และกองทุนต่าง ๆ ซึ่งมีการขยายตัวใน ทุกระดับวงเงินฝาก โดยเกือบครึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของเงินฝากที่มีวงเงินสูงกว่า 25 ล้านบาท และหากดูข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี ระหว่างปี 2560 – 2562 จำนวนเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปี 2560 จำนวน 12.54 ล้านล้านบาท ปี 2561 จำนวน 13.02 ล้านล้านบาท และปี 2562 จำนวน 13.56 ล้านล้านบาท
อนึ่ง สถานการณ์เงินฝากไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนจากตามปกติอัตราการเติบโตของเงินฝากเฉลี่ยเติบโตประมาณ 4-6% แต่ในครึ่งปีแรกโตถึง 8 % แต่ว่าเชื่อว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากประชาชนยังระวังการใช้จ่าย แต่อาจมีบางส่วนที่มีการลดเงินฝากเพื่อไปลงทุนในทองคำมากขึ้น เพราะราคาทองคำปีนี้ให้ผลตอบแทนสูง และผู้ประกอบการบางรายนำเงินสดออกมาใช้จ่ายดำเนินธุรกิจหลังคลายล็อกดาวน์แล้ว
ธนาคารแห่งประเทศไทย เผย เศรษฐกิจไทยเสี่ยงติดลบมากสุดในภูมิภาค
องอาจ ขอให้รัฐบาลทบทวนการจัดซื้อ เรือดำน้ำ ต้องยอมรับความจริง เศรษฐกิจแย่