หลายๆ คนคงจะเคยทราบกันมาแล้ว ยิ่งสายดูแลสุขภาพ สายออกกำลังกาย ยิ่งต้องรู้เลยว่า “กินผลไม้ไม่อ้วนหรอก” เป็นเรื่องไม่จริง เพราะ “ผลไม้” บางชนิดก็ไม่เหมาะกับการรับบประทานในช่วงลดน้ำหนัก เพราะมีน้ำตาลสูง แคลอรี่สูง กากใยอาหารน้อยกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่ง วันนี้ Bright TV รวมมาให้แล้ว 8 ผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน ออกกำลังกายแล้วกินได้ มาดูเลยมีอะไรบ้าง
8 ผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน
สำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานผลไม้ แต่กังวลเรื่องปริมาณแคลอรี่หรือปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายจะได้รับ และไม่แน่ใจว่าควรรับประทานผลไม้ชนิดใดจึงจะเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด ผลไม้เหล่านี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการดูแลสุขภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ยังอาจช่วยในการลดหรือควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
เสาวรส
เสาวรส 1 ผลให้พลังงานเพียงแค่ 18 แคลอรี่ แต่มีใยอาหารประมาณ 2 กรัมซึ่งถือว่าเป็นปริมาณใยอาหารที่มากสำหรับผลไม้ลูกเล็ก ซึ่งใยอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ช้าลง ส่งผลให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น และยังช่วยในเรื่องการขับถ่ายด้วย นอกจากนี้ เสาวรสยังอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ ธาตุเหล็ก และโพแทสเซียมซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ฝรั่ง
ฝรั่ง 1 ผลให้พลังงานประมาณ 37 แคลอรี่ มีใยอาหารประมาณ 3 กรัม และยังอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็กที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนี้ ฝรั่งยังมีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index: GI) ในปริมาณที่ต่ำ ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้ เพราะอาจไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด
ผลไม้ตระกูลแตง (Cucurbitaceae Fruits)
ผลไม้ตระกูลแตงอย่างแตงโม แคนตาลูป หรือเมล่อน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน โดยผลไม้ตระกูลแตง 1 ถ้วยหรือประมาณ 150–170 กรัม จะให้พลังงานเพียงแค่ประมาณ 46–61 แคลอรี่เท่านั้น
นอกจากนี้ ผลไม้ตระกูลแตงยังมีใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงมีน้ำเป็นส่วนประกอบมาก จึงอาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำจากอาหารอย่างสมดุล และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำด้วย
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำและมีใยอาหารสูงจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการรับประทานเพื่อลดน้ำหนัก โดยตัวอย่างปริมาณแคลอรี่ของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 1 ถ้วย ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี่ 48 แคลอรี่ ราสเบอร์รี่ 64 แคลอรี่ และแบล็กเบอร์รี่ 65 แคลอรี่ นอกจานนี้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังมีวิตามินซีและวิตามินอีสูง จึงอาจมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระด้วย
ส้ม
ส้มขนาดกลาง 1 ผลให้พลังงานประมาณ 66 แคลอรี่ มีใยอาหารประมาณ 3.14 กรัม และยังอุดมไปด้วยวิตามินซีสูงซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เนื่องจากร่างกายของเราจะใช้วิตามินซีในการช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการสร้างคอลลาเจน รวมถึงช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กด้วย
แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผลให้พลังงานประมาณ 96 แคลอรี่ และมีใยอาหารประมาณ 4.37 กรัม แอปเปิ้ลมักนิยมรับประทานเป็นของว่างระหว่างวันเพราะแคลอรี่ต่ำแต่มีใยอาหารสูง จึงช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นาน โดยสามารถรับประทานแอปเปิ้ลสดทั้งลูก หรือใช้เป็นส่วนผสมในเมนูเพื่อสุขภาพอื่น ๆ เช่น ใส่ในสลัด หรือรับประทานคู่กับโยเกิร์ต เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างหลากหลาย
อะโวคาโด
อะโวคาโดครึ่งผลหรือประมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 161 แคลอรี่ แต่ถึงแม้จะมีแคลอรี่สูงและมีไขมันในปริมาณมาก แต่ก็ถือเป็นผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนอีกชนิดหนึ่ง เพราะไขมันในอะโวคาโดส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพและอาจมีประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพหัวใจ
นอกจากนี้ อะโวคาโดยังมีใยอาหารมาก ซึ่งสามารถช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น และปริมาณแคลอรี่ในอะโวคาโดยังสามารถช่วยเสริมพลังงานให้แก่ร่างกายในระหว่างวันด้วย
กล้วย
กล้วยขนาดกลาง 1 ลูกให้พลังงานประมาณ 105 แคลอรี่ มีใยอาหารประมาณ 3.07 กรัม และมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการอีกหลายประการ เช่น วิตามินบี 6 วิตามินซี โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแมงกานีส รวมถึงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย
วันนี้เรามีตัวช่วยในการลดน้ำหนักมาแนะนำอีกหนึ่งตัวนั่นก็คือ Benefit Protein หรือ โปรตีนจากพืช นั้นเอง เป็นโปรตีนที่สกัดจาก ถั่วเหลือง,ถั่วลันเตาสีทอง,เมล็ดฟักทอง และข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยังมีส่วนผสมของตระกูลเบอร์รี่ถึง 8 ชนิดอีกด้วย โปรตีนพืชจะให้คุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่า สลัด 1 จาน แถมไม่มีคอเลสเตอรอลที่เป็นความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเเละไขมันอุดตัน และยังช่วยให้กระบวนการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่กำลังลดความอ้วนอย่างมาก
พิกัด : benefitprotein
แหล่งที่มา pobpad
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY