หนุ่มเมืองน้ำหอมจูงมือลูกชาย-หญิงเข้าให้ปากคำกับทีมสหวิชาชีพ หลังเด็กยอมเผยเคยถูกพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษกระทำชำเราจนพ่อแท้ๆ ต้องพาเข้าแจ้งความ วอนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรม ย้ำ! ไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อหวังผลแอบแฝง
หนุ่มใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 39 ปี จูงมือลูกสาววัย 8 ขวบ และลูกชายวัย 4 ขวบ (ลูกครึ่งจีน-ฝรั่งเศส) พร้อมล่ามแปลภาษา เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการภาค 2 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายหลังจากเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา หนุ่มชาวเมืองน้ำหอมรายนี้ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าบุตรสาวได้ถูกพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษ อายุ 35 ปี พ่อเลี้ยงชาวอังกฤษ ข่มขืนกระทำชำเราภายในบ้านพัก ย่านชายหาดจอมเทียน พัทยาใต้
ภายหลังผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง หนุ่มแดนน้ำหอมออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน ตนเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสไปทำธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าส่งออกที่เกาะฮ่องกง จนได้รู้จักกับหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่ง จากนั้นจึงใช้ชีวิตอยู่กินฉันสามี-ภรรยาแบบไม่ได้จดทะเบียนสมรส กระทั่งมีลูกสาวและลูกชายด้วยกันรวม 2 คน ในเวลาต่อมาตนเองพาครอบครัวเดินทางจากฮ่องกงมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่เมืองพัทยา ต่อมาเกิดมีปัญหากับสาวจีนคนดังกล่าว จนถึงขั้นเลิกราแยกทางกันไป แต่ก็ยังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนช่วยกันดูแลลูกน้อยทั้ง 2 คน ก่อนที่ภรรยาชาวจีนจะมีสามีใหม่คือหนุ่มสัญชาติอังกฤษรายนี้
หนุ่มใหญ่ชาวฝรั่งเศส กล่าวอีกว่า ต่อมาลูกทั้ง 2 คนมาเล่าให้ฟังว่า เคยถูกมารดาทำโทษด้วยการตบใบหน้าอย่างแรงและถูกขังไว้ในห้องมืด มิหนำซ้ำยังถูกพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษ บังคับให้ดื่มเบียร์และสอนให้มีการต่อสู้กัน
ล่าสุด เมื่อเดือน ม.ค.60 ที่ผ่านมา หลังจากตนทำงานบ้านจนเกิดอาการเมื่อยล้า บุตรสาวและบุตรชายจึงเสนอตัวว่าจะนวดให้ ซึ่งในขณะที่กำลังให้ลูกๆ ช่วยนวดให้อยู่นั้น จู่ ๆ ด.ช.เจมส์ (นามสมมติ) เอ่ยขึ้นมาว่าให้นวดอวัยวะเพศด้วยหรือไม่ ด้วยความแปลกใจที่เด็กวัยเพียงเท่านี้ทำไมจึงรู้เรื่องพรรค์นี้ จึงพยายามสอบถามเพื่อค้นหาความจริงจนได้รับคำตอบว่า ลูกทั้งสองคนเคยถูกพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษบังคับให้ใช้มือและปากสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ด.ญ.ซาร่า (นามสมมติ) ลูกสาววัย 8 ขวบ ยังถูกพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษรายนี้บังคับขืนใจและกระทำชำเรามาแล้วถึง 5 ครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนจึงพาลูกเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนพาไปพบแพทย์ที่ รพ.สมิติเวช และ รพ.ตำรวจ ซึ่งจากความเห็นของแพทย์ รพ.สมิติเวช ในเบื้องต้นระบุว่าสภาพจิตใจของเด็กมีความผิดปกติ และต้องได้รับการฟื้นฟู ส่วนการตรวจร่างกายต้องรออีกสักระยะ จึงจะทราบผล
“ตนยอมรับว่าเมื่อเดือน มี.ค.60 เคยยื่นเรื่องฟ้องศาลเพื่อขอรับบุตรไปอยู่ในความดูแล ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ทั้งนี้ก็เพราะว่าตนซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ก็อยากให้ลูกทั้ง 2 คนมีอนาคตที่ดีด้วยการพาไปเรียนหนังสือที่ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากทุกวันนี้ภรรยาชาวจีนต้องไปทำงานที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองพัทยาจึงทำให้ไม่มีเวลาเลี้ยงดู เลยต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงในยามค่ำคืน ทำให้เด็กถูกกระทำมิดีมิร้าย ตนขอยืนยันว่าเรื่องที่ลูกถูกข่มขืนกระทำชำเรานั้น เป็นเรื่องจริงที่ออกมาจากปากเด็กเอง ตนไม่ได้กุเรื่องขึ้นเพื่อใส่ร้ายหนุ่มชาวอังกฤษ หรือหวังผลประโยชน์แอบแฝงแต่อย่างใด จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย”นายซีดิก กล่าว
ทางด้าน ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด เผยว่า คดีนี้จะให้หนุ่มชาวฝรั่งเศสจูงมือลูกชาย-หญิงเข้าให้ปากคำกับทีมสหวิชาชีพ หลังเด็กยอมเผยเคยถูกพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษกระทำชำเราจนพ่อแท้ๆ ต้องพาเข้าแจ้งความ วอนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรม ย้ำ! ไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อหวังผลแอบแฝง พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ภายหลังจากนี้จะได้ทำเรื่องส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้ง พร้อมกับทำสำนวนการสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ส่งให้อัยการพิจารณาต่อไป